5 ข้อที่คุณต้องจำ เริ่มทำโฆษณาออนไลน์ (จะได้ไม่พลาดเหมือนผม)

ตัวผมเองเขียนเกี่ยวกับการทำโฆษณาบนเฟสบุ๊คมาก็ประมาณราวๆ 5 ปีได้ละ ได้ทำโฆษณาเฟสบุ๊คเลยก็ตั้งแต่ปี 2013 ผ่านมาก็เกือบๆ จะ 10 ปีแล้ว ได้เห็นอะไรเยอะแยะไปหมดเลยครับ เกี่ยวกับโลกของการทำโฆษณา
เห็นและแก้ปัญหาหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำโฆษณา ทั้งโฆษณาของผมเองหรือโฆษณาลูกค้า วันนี้ผมเลยคิดว่า ควรจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วเอามาแชร์กับเพื่อนๆ ครับ
เพื่อที่จะให้เพื่อนๆ เอาไปปรับใช้กับตัวเองได้ ตอนทำโฆษณาไป จะได้ไม่ทำแบบงูๆ ปลาๆ เพราะว่าอะไรพวกนี้ มันเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ผมมองว่าถ้าไม่ระวังกับมัน จะเสียมากกว่าได้เยอะครับ
เอาจริงๆ ผมรู้ดีนะครับ ว่าโพสต์แบบนี้ ไม่ค่อยมีใครอ่านหรอกครับ แต่ผมจะดีใจมากๆ นะครับ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนเข้ามาอ่าน แล้วได้ประโยชน์กลับไปจริงๆ ครับ เพราะผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมคุยกับเพื่อนๆ ในบทความนี้ มันสำคัญจริงๆ ครับ โดยเฉพาะเรื่องของการปรับความคิดและมุมมองต่อการทำโฆษณาครับ
ถ้าเพื่อนๆ อยากจะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงโฆษณาเฟสบุ๊ค: เริ่มต้นลงโฆษณาเฟสบุ๊ค สำหรับมือใหม่ งบวันละ 99 บาทก็ทำได้
บทความนี้มีอะไรบ้าง
ข้อควรจำ#1: โลกของการทำโฆษณามันเปลี่ยนไปทุกวัน ระบบก็เหมือนกัน
เพื่อนๆ ที่เคยทำโฆษณาตั้งแต่ยุคเริ่มแรกของ Facebook จะจำได้ว่า ตอนนั้นมันทำโฆษณาง่ายมากๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ลงโฆษณาไป ใส่ keyword ตัวเดียว ก็รันโฆษณาได้ยาวๆ ชิวๆ เลย
ใครขายเกี่ยวกับยาสมุนไพรอะไรก็สามารถเอามาขายได้ กฎระเบียบถือว่าค่อนข้างที่จะหลวมเอามากๆ ครับ แต่ตอนนี้คือแทบจะไม่ได้เลยแบบนั้น โดนไล่แบนแบบบ่อยมากๆ ครับ ถ้าผิดกฎแค่นิดเดียว
อันนี้เราพูดถึงแค่เรื่องกฎระเบียบของ Facebook นะครับ ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องระบบของเขาที่เปลี่ยนไป ราคาที่แพงขึ้น และกลไกลยิบย่อยที่เข้ามา
ในเมื่อเราทำโฆษณาบน platform ของเขา เราทำอะไรไม่ได้นอกจากปรับตัวเข้าหาเขาครับ
ข้อควรจำ#2: วิธีการโฆษณามันจะไม่หายไปไหน แต่คุณภาพไม่รับประกัน
ถ้าเรามาดูเนื้อแท้ของโลกโฆษณาแล้ว จะเห็นว่าวิธีการทำโฆษณา จริงๆ แล้ว ไม่ว่าเวลาจะนานแค่ไหน มันจะไม่หายไปไหนครับ ผมจะยกตัวอย่างให้ดูนะครับ เพื่อนๆ ที่ใช้รถใช้ถนน หรือ ยิ่งเป็นคนที่อยู่ต่างจังหวัดแบบผม จะเห็นบ่อยครับ นั่นก็คือรถประกาศโฆษณาครับ

ลองนึกย้อนกลับไปหลายๆ ปี ก่อนดูนะครับ ว่าโฆษณาแบบนี้มันจะเป็นยังไง มันคงต้องได้ผลเยอะแน่นอนเลยใช่ไหมครับ? ไม่อย่างนั้นคนคงไม่จ้าง คนคงไม่มาลงทุนซื้อรถกระบะแบบนี้มาเพื่อให้บริการประกาศไปตามพื้นที่ครับ
แต่มาจนถึงทุกวันนี้ การประกาศโฆษณาแบบนี้ มันก็ยังมีอยู่ จริงไหมครับ? แต่ผลลัพท์ที่ได้มา มันก็จะลดน้อย ถอยลงไปด้วยครับ
เรามาดูอีกตัวอย่างหนึ่งครับ นั่นก็คือ “ป้ายโฆษณา” ครับ

ป้ายโฆษณาแบบนี้ ผมมั่นใจนะครับว่ามันจะมีแบบนี้อยู่ไปอีกนานหลายปีเลยครับ เพราะว่ายังไงแล้ว ถ้าสายตาคนมองไปทางไหน มันก็จะมีโฆษณาในทางนั้นครับ มันจะมีน้อยมากๆ ครับ ในสถานที่ๆ มีโฆษณาอยู่น้อยจริงๆหรือไม่มีเลย
ขนาดเราจ่ายตังค่าบัตรผ่านเข้าไปในงาน เขายังมีโฆษณาให้เราอีกครับ ว่าเข้าไปแล้วมีร้านอะไรบ้างที่เราจะซื้อของได้ จริงไหมครับ?
หลักๆ ที่ผมอยากจะสื่อถึงก็คือ ในโลกออนไลน์ก็เหมือนกันครับ วันนี้มันดังแบบหยุดไม่อยู่ ใครๆ ก็ไปทำโฆษณากับเขา (เหมือน Facebook ตอนแรก) แต่สักวันหนึ่ง ประสิทธิภาพเขาก็จะค่อยๆ ลดลงครับ แต่ถ้าจะถามว่ามันจะหายไปเลยทีเดียวไหม คงไม่ครับ นอกจากคนจะไม่เล่นเฟสบุ๊คกันไปแล้ว
ทำให้ผมนึกถึงวงการ TV นะครับ เพราะมีคนบอกว่าโฆษณาออนไลน์จะมาแทนทีวี ซึ่งผมมองว่ามันเป็นไปไม่ได้ครับ ตราบใดที่คนยังดูทีวี มันก็ยังมีโฆษณาทีวีแน่นอนครับ แต่ประสิทธิภาพ อันนี้ต้องดูกันไปยาวๆ ครับ ว่าในวงการ TV เขาจะปรับตัวกันยังไง
ในฐานะที่เราทำโฆษณากัน เราก็ควรจะวางแผนเผื่อเอาไว้ครับ ว่าในระยะเวลาข้างหน้านี้ ประสิทธิภาพของโฆษณาเรา อาจจะลดลงและเราจะต้องทำยังไงต่อจากนี้
ข้อควรจำ#3: มองหาลู่ทางใหม่อยู่เสมอ อย่าหยุด
เอาจริงๆ ผมเองเป็นหนึ่งในคนที่เคย “หยุด” นะครับ อารมย์เหมือนคิดว่าตัวเองวิ่งมาไกลแล้ว มองไม่เห็นคนที่วิ่งตามมา เลยชะลอเพื่อพัก แต่พักนานเกินไป โดนคนอื่นแซงไปหลายคนเลย
ในโลกของการทำโฆษณาก็เหมือนกันครับ ถ้าเราไม่พัฒนาและปรับตัวไปกับระบบที่มันเปลี่ยนไปอยู่ทุกวัน เราอาจจะไม่รู้ตัวว่าเราถูกทิ้งห่างไปไกลแค่ไหนแล้ว จนกว่าตอนที่เราจะมองไม่เห็นหลังของคู่ต่อสู้เราครับ
บนโลกนี้ ถ้าเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ เรื่องความอยู่รอด คนเขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อจะชนะเราครับ เขาก็จะหาวิธีใหม่ๆ ลู่ทางๆ ใหม่ๆ ที่ยังเป็นจุดอ่อนของเรา และเอาชนะเราได้ในที่สุด ถ้าเราไม่ปรับตัวครับ
ผมยกตัวอย่างนะครับ ทุกวันนี้ โฆษณาบน TikTok เป็นที่นิยมมากๆ ครับ

บน platform TikTok เนี่ย มันสามารถเป็นกระแสได้เร็วมากๆ ครับ เพราะว่า algorithm หรือพูดง่ายๆเลย AI ที่จะแนะนำวิดีโอให้เราดู ให้เราเห็นหน้า feed ของเรา เขาทำมาเพื่อให้ทุกอย่างมันเป็นกระแสได้ง่ายครับ
ผมเห็นหลายๆ คนที่เขาเริ่มทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอาหารหรือขายของทั่วไป มาถ่ายลง TikTok จากยอดขายไม่ค่อยมี กลายเป็นทำจนแทบจะไม่ทันก็เยอะแยะไปนะครับ อันนี้ขนาดยังไม่ได้โฆษณานะครับ แค่โพสต์แล้วก็ปล่อยให้มันเป็นกระแส หรือ viral เองครับ
เพื่อนๆ ลองคิดดูนะครับ ถ้าเกิดว่าเราไม่ตามกระแสพวกนี้ เราไม่ได้เรียนรู้ว่าบน platform ของ TikTok เขาเป็นอะไรแบบนี้ เราก็จะไม่ได้ลงไปเล่นสักทีใช่ไหมครับ? แล้วถ้าแย่ไปกว่านั้น คู่แข่งของเราเขาลงไปหมดแล้ว เขาไปไกลแล้ว เราจะตามเขา มันก็ไม่ง่ายนะครับ
ไม่ใช้เวลามากๆ ก็ต้องใช้เงินมากๆ ครับ มีอยู่ 2 ทางเลือกจริงๆ เลยครับ
เพราะฉะนั้นผมว่าเราควรที่จะติดตามกระแสตลอดและปรับตัว หาลู่ทางใหม่อยู่เสมอครับ ไม่อย่างนั้นเราก็สู้การแข่งขันที่มันเปลี่ยนไปได้ทุกวันไม่ได้ครับ
ข้อควรจำ#4: การใช้เว็บไซต์ตีตลาดออนไลน์ เป็นไปได้ยากมากๆ
ใช่แล้วครับ เหมือนที่เพื่อนๆ มาอ่านบล็อกบนเว็บไซต์ของเรานี่แหละครับ กว่ามันจะมาถึงตรงนี้ได้ มันจะไปติดหน้าแรกของ Google ให้เพื่อนๆ หาบทความของผมเจอ มันไม่ง่ายเลยนะครับ แล้วมันก็จะยากขึ้นทุกๆ วันด้วยครับ
เพราะใครจะเข้ามาทำ website อย่างน้อยๆ เลย ต้องเข้าใจ SEO ก่อน ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเลยครับ เพราะว่าเจ้าของธุรกิจทั่วไป ใครจะไปเข้าใจกลไกลอะไรประมาณนี้ล่ะครับ จริงไหม? ตอนผมเข้ามาในโลกการตลาดออนไลน์ในปี 2011 ผมเองก็มึนมากครับ
ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมไปซื้อเว็บจากคนๆ หนึ่งมาทำ อยากให้ติดหน้า 1 ไปอ่านๆ ดู เขาบอกให้ซื้อ backlink (มันเป็นลิ้งค์จากเว็บคนอื่น มาหาเว็บเราครับ) ราคาถูกๆ (พวก spam links ครับ คุณภาพแย่ๆ) ช่วงแรกๆ ตอนนั้น AI (algorithm) ของ Google มันยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นเว็บผมตอนนั้นก็ไปติดหน้า 1 อย่าง งงๆ ครับ
แต่ผ่านไปไม่นาน Google เขาปรับ AI เขา เว็บผมตอนนั้นก็เลยโดนเตะจากอันดับ 1 ไปเป็นอันดับ 400+ ครับ เพราะน่าจะเป็นเพราะใช้ลิ้งค์ไม่มีคุณภาพ เหมือนพยายามโกงระบบอะครับ
เพราะฉะนั้น ถ้าเพื่อนๆ คนไหนคิดว่าอยากที่จะเข้ามาตีตลาดโดยการใช้เว็บไซต์ อันนี้ต้องเผื่อใจไว้นิดหนึ่งนะครับ มันอาจจะใช้เวลาเยอะหน่อย (น่าจะราวๆ 6 เดือน หลังจากการทำ SEO ถึงจะเริ่มเห็นผลบ้าง) และถ้ายิ่งเราเข้ามาในสภาพแวดล้อมธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงอยู่แล้ว อันนี้น่าจะใช้เวลานานโคตรๆ ครับ หรืออาจจะไม่ติดเลย (อันนี้เรื่องจริงครับ)
ผมเลยอยากจะแนะนำให้อ่านข้อควรจำต่อไปครับ
ข้อควรจำ#5: อยากตีตลาดได้ ต้องพึ่ง platform คนอื่น
มันเป็นคำที่เจ็บนะครับ ที่เราต้องไปพึ่ง platform เขา ไม่รู้ว่าเขาจะแบนเราเมื่อไหร่ ด้วยเหตุผลอะไร แต่ในยุคนี้ มันต้องเป็นแบบนั้นครับ
เอาจริงๆ อย่างที่ผมพูดไปในข้อ 4 ครับ ที่ว่าใช้เว็บไซต์มาตีตลาดมันยาก เพื่อนๆ หลายๆ คนก็ยังอยากที่จะทำเว็บขายของขึ้นมา เพื่อจะเอามาทำการตลาดและขายตรงให้กับลูกค้าโดยที่ไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างเว็บ Shopee และ Lazada ครับ
แต่มันจะมีสักกี่คนที่ทำแล้วประสบผลสำเร็จครับ? ถ้าพูดตามความเป็นจริง ผมนับเลยว่าศูนย์ครับ (หรืออาจจะมีแต่ผมไม่เคยเห็น อันนี้ต้องขออภัยนะครับ)

เพื่อนๆ เห็นไหมครับ เขามีลดแลก แจกแถม กันอยู่ตลอด ฟรีนั่น ฟรีนี้ มีคูปองให้ ส่งฟรี โน้นนั่นนี้ เอาจริงๆ คนธรรมดาทั่วไป ใครจะไปมีงบเยอะขนาดนั้นที่จะเอามาแจกได้ จริงไหมครับ?
เขาใช้เงินไปเท่าไหร่ กว่าเขาจะได้ลูกค้ามาเยอะขนาดนี้ และทุกวันนี้ เขาก็ยังต้องใช้ตังจากนักลงทุนมาเพิ่มเรื่อยๆ ครับ เพราะไม่อย่างนั้น การที่เป็นเจ้าครองตลาดมันก็คงจะยากครับ
เพื่อนๆ ว่า มันไม่ดีกว่าเหรอครับ ถ้าเราเอาเวลาของเรา มาลงกับการสร้างตัวตนบน platform ของเขาครับ? แน่นอนครับ ว่าเขาก็จะต้องมีส่วนแบ่งจากยอดขายของเรา แต่เขาก็จะหาคนเข้ามาให้เราครับ โดยลำพัง เราหาเอง มันยากกว่าและอาจจะแพงกว่าด้วยซ้ำครับ (ผมหมายถึงจากเว็บของเราเองครับ)
ยกตัวอย่างอีกสักหน่อยครับ

ถ้าเพื่อนๆ อยากหารายได้เสริม เปิดรายขายอาหารตามสั่งอยู่ที่บ้าน เพื่อนๆ คิดว่าจะต้องทำโฆษณายังไงครับ? ถ้าเอาง่ายๆเลย ก็ต้องสร้างเพจบนเฟสบุ๊คแล้วโปรโมทร้านเราเอง จริงไหมครับ? (อ่าว มันก็พึ่ง platform ของ Facebook อยู่ดี)
เพื่อนๆ หลายคนก็เลยพึ่งบริษัทพวก food delivery เลยดีกว่า เพราะมันง่ายดี เขาทำโฆษณา เป็น customer service และส่งให้เราด้วย แต่ในทางเดียวกัน เขาก็คิดค่า commission แพงเหมือนกัน แต่ผมว่าถ้าเพื่อนๆ ไม่อยากเสียค่า commission เลย ในยุคนี้มันอาจจะยากนิดหนึ่งนะครับ
อาจจะเอาร้านเข้า app พวกนี้จนมีคนรู้จักดี ดึงคนเข้าร้านได้ แล้วค่อยเอาออก แบบนี้น่าจะดีกว่านะครับ อย่างน้อยๆ ก็เหมือนเราเสียค่าโฆษณาให้เขา (เป็นค่า commission)
เห็นไหมครับ มันเป็นไปได้ยากมากๆ ครับ ที่เราจะไม่พึ่ง platform ใครเลย สร้างด้วยตัวเอง เพื่อจะตีตลาดเอง มันยากมากครับ ถึงแม้มีเงิน มันก็ยากอยู่ดี ลองดูคู่แข่งของ Shopee กับ Lazada สิครับ มีอยู่กี่รายที่หายๆ กันไปแล้ว ถึงแม้เขามีเงินลงโฆษณาก็เถอะครับ
สิ่งที่ผมคุยกับเพื่อนๆ วันนี้ เพื่อนๆ ลองเอาไปคิดๆ ดู..
เพื่อนๆ อ่านมาจนถึงท้ายบทความ ถือว่าเก่งมากๆ นะครับ เอาจริงๆ บทความนี้ ผมไม่ได้หวังว่าจะมีคนอ่านเยอะครับ เพราะมันไม่ได้มีการสอนอะไรมาก แต่ผมมั่นใจนะครับ ว่าการรู้วิธีการทำอะไรสักอย่าง ไม่สำคัญเท่าการมีทัศนคติและมุมมองที่ดีกับการทำสิ่งนั้นๆ ครับ
วันนี้ผมเลยอยากจะมาแบ่งปันทัศนคติและมุมมองของผมที่มีต่อโลกการตลาดและโฆษณาออนไลน์ครับ แน่นอนครับ ว่ามันไม่ได้สวยหรู เพราะว่าคนที่เข้ามา เอาเงินมาทิ้งแล้วหายไป ก็เยอะแยะครับ
ผมไม่อยากให้เพื่อนๆ เป็นหนึ่งในนั้นครับ เพราะผมเสียดายทั้งเงินและเวลาที่เพื่อนๆ จะต้องเอามาทำอะไรพวกนี้ครับ ถ้าจะทำ ก็ทำให้มันสุด รู้ทุกๆ อย่างที่ควรจะรู้ เหมือนนักรบที่เข้าสนามรบด้วยความพร้อมครับ ไม่ใช่เข้าไปแบบงูๆ ปลาๆ ไปโดนเขายิงตายภายใน 10 นาทีแรก
โพสที่มีคนอ่านเยอะที่สุด:
- จาก 2 ถึง 4,227 ไลค์ (ละ ฿0.11) ทำยังไงมาดูกัน (โฆษณา Facebook)
- (เนื้อหาปี 2022) วิธีทำโฆษณา Facebook วันละ 99 บาท แต่ได้ผลจริง (เหมาะสำหรับคนเริ่มใหม่)
- วิธีทำโฆษณา Instagram & สร้างกลุ่มเป้าหมายขั้นสูง (เนื้อหา 2022 อัพเดท)
- วิธีทำ SEO ให้ขึ้นหน้า 1 ของ Google ขั้นเทพ (สำหรับมือใหม่)
- โฆษณา Facebook: 21 ไอเดียเจาะกลุ่มลูกค้าเด็ดๆ (ที่คุณอาจคิดไม่ถึง)
- Facebook Ads vs. Adwords อันไหนเหมาะกับธุรกิจคุณมากกว่ากัน?
ถ้าเพื่อนๆ มีความคิดเห็น มุมมองอะไรยังไง สามารถแชร์กับผมได้นะครับ เราจะได้พูดคุยกันครับ
- วิธีทำ SEO ให้ keywords ติดอันดับสูงๆ บน Google - September 29, 2022
- วิธีใช้ Instagram Hashtags อย่างเซียน แบบละเอียด (ฉบับเต็ม) - September 22, 2022
- Multi-Channel Online Marketing: คืออะไร ใช้เอาชนะคู่แข่งได้ไหม? - September 15, 2022
Leave a Comment