3 กลยุทธ์ content marketing เจ๋งๆให้ได้ผลดีขึ้น 4x บน Facebook

ในยุคที่ผู้บริโภคโดนโจมตีอย่างหนักจากโฆษณาแต่ละบริษัท ยังไม่พอหลายๆคนโดนบางบริษัทโทรมาขายของให้อีก การโฆษณาทั่วไปสมัยนี้เลยได้ผลน้อยลงมากกว่าแต่ก่อนเยอะครับ เพราะแต่ก่อนมีแค่โฆษณาไม่กี่แบบ ตอนนี้ไม่ว่าเราอยู่ที่ไหนของโลก ตราบใดที่มีคนก็จะมีโฆษณาครับ
ตามผลสำรวจของ CBS ได้พบว่าคนทั่วไปเห็นโฆษณาประมาณวันละ 4,000 โฆษณาต่อวันครับ (อ่านเพิ่มเติม) ยิ่งถ้าเป็นใน Facebook นี้ไม่ต้องถามถึงเลย เลื่อนลงมานิดเดียวคุณก็จะเจออีกโฆษณาหนึ่งแล้ว

ผู้บริโภคโดนโฆษณายิงเข้าไปหาเยอะๆแบบนี้วันแล้ววันเล่าก็ต้องเบื่อสิใช่ไหมครับ? ถ้าโฆษณาแบบเดิมๆ ดึงดูดลูกค้าแบบเดิมๆ มันไม่ได้ผลแล้วครับ
ลองสังเกตนะครับว่าบริษัทที่อยู่มาหลายสิบปีแล้ว ถ้าไม่ได้เอานักการตลาดรุ่นใหม่ๆเข้ามาจะไปไม่รอดครับ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ครับ
บริษัทที่ทำการตลาดออนไลน์ได้โดนใจผมก็จะมี KFC เนี้ยแหละครับ เพราะว่าเขาหาคนที่มาเป็น admin ดูแลเพจเขาได้ดีครับ และที่สำคัญคือคนจ้าง admin คนนี้เขาเข้าใจว่าควรจะทำการตลาดออนไลน์ยังไงครับ

การดึงดูดลูกค้าแบบนี้ก็เลยเกิดขึ้นและกำลังมาแรงครับ เราเรียกการดึงดูดลูกค้าแบบนี้ว่า “การทำการตลาดแบบใช้ Content” ครับ
ถ้าใครยังไม่แน่ใจว่า Content marketing คือออะไร เรามาดูกันครับ ผมจะอธิบายแบบคร่าวๆให้ฟังครับ
บทความนี้มีอะไรบ้าง
Content marketing คืออะไร?
อย่างที่ผมบอกไปครับว่าโฆษณาแบบเดิมๆ เริ่มไม่ได้ผล การดึงดูดลูกค้าแบบใหม่ก็เลยต้องเข้ามาครับ เพราะว่าถ้าจะทำแบบเดิมๆตลอดก็ได้ครับ แต่ประสิทธิภาพของการโฆษณาจะลดน้อยลงมากครับ
การทำการตลาดแบบ content นั้นก็คือการที่คุณสร้างเนื้อหาความรู้ดีๆ เพื่อที่จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามาหาธุรกิจของคุณแทนที่จะออกไปโฆษณาครับ
สมมุติว่าคุณเป็นคนขายประกันนะครับ

แทนที่คุณจะโทรไปหาเบอร์ต่างๆเพื่อหาลูกค้า คุณเข้าไปในเว็บ Pantip เพื่อตอบคำถามคนที่มีคำถามเกี่ยวกับประกัน
และก็สร้างวิดีโอใน Youtube เพื่อให้ความรู้คนเกี่ยวกับประกันต่างๆในประเทศไทยครับ คนที่เห็น Content ของคุณก็จะเห็นว่าคุณมีความรู้และอยากจะติดต่อเข้ามาทำประกันกับคุณเอง โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินไปทำโฆษณาครับผม
พอจะเข้าใจไหมครับ?
4 เหตุผลที่คุณควรทำ Content Marketing บนเฟสบุ๊ค
ก่อนที่เราจะเข้าไปสู่เนื้อหาและพูดถึงกลยุทธ์ในการทำ Content marketing บนเฟสบุ๊ค เรามาดูกันก่อนนะครับว่า 4 เหตุผลหลักๆที่คุณควรจะทำ content marketing บนเฟสบุ๊คคืออะไร
- ค่าโฆษณาถูกกว่าเจ้าอื่น
- มีตัวเลือกเจาะจงกลุ่มเป้าหมายเยอะ
- สามารถเจาะจงได้ลึกถึงพฤติกรรม
- ทำโฆษณาง่ายและคู่แข่งส่วนใหญ่ไม่แข็งแกร่ง
ถ้าคุณเคยทำโฆษณาใน Facebook มาแล้วก็คงจะคุ้นๆกับสิ่งที่ผมกำลังพูดไปนะครับ หลังจากนี้เรามาพูดถึงกลยุทธ์การทำ Content marketing ในเฟสบุ๊คกันครับ
เทคนิคและวิธีในวันนี้ที่เราจะพูดถึงจะรวมทั้งง่ายและยากเลยนะครับ มาเริ่มกับตัวแรกกันเลยดีกว่าครับ
วิธีที่ #1: ยิงโฆษณาให้คนที่ติดตามเพจของคุณ
ถ้าคุณไม่ได้ซื้อไลค์มา การโฆษณาให้แฟนๆของเพจคุณ จะได้ผลมากที่สุดอยู่แล้วครับ เพราะว่ากลุ่มลูกค้ารู้จักคุณ และมีความเชื่อใจในระดับหนึ่งแล้วถึงมากดไลค์เพจของคุณได้
เหตุผลที่เราต้องทำแบบนี้เพราะว่าเราก็รู้ๆกันอยู่ว่า เราคงจะหวังให้โพสของเราไปแสดงให้แฟน page เห็นเอง คงจะยาก เพราะตามที่ผมสำรวจจากหลายๆ fan page ที่ผมช่วยทำโฆษณามา มีไม่ถึง 10% ของแฟนๆในเพจที่จะเห็นครับ

ล่าสุดการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจะอยู่ที่ประมาณ 2% – 4% เท่านั้นครับ ถ้าคุณมีแฟนเพจและคุณไม่อยากที่จะเสียเปล่า Facebook ก็บีบให้เราต้องโฆษณาอย่างเดียวครับ

เพราะฉะนั้นถ้าคุณมี content เจ๋งๆที่อยากจะให้แฟนๆใน page เห็น คุณต้องจ่ายเงินยิงโฆษณาครับ ผมเข้าใจนะครับว่ามันฟังดูแล้วไม่แฟร์ แต่มันเป็นทางเดียวจริงๆครับที่จะทำให้คุณชนะคู่แข่งบน Facebook ได้

ผมแนะนำให้คุณเจียดเงินมาเป็นงบโฆษณาโพสประมาณ 500 – 1,000 บาทต่อโพสครับ แต่เน้นเฉพาะโพสที่มีความหมายกับธุรกิจของคุณจริงๆนะครับ
อาจจะเป็นโพสประกาศเกี่ยวกับอะไรสักอย่าง หรือถ้าคุณเป็น SME ที่มีงบเยอะอยู่แล้ว นั้นเป็นข้อได้เปรียบที่คุณจะสามารถทำ branding บนเฟสบุ๊คโดยการใช้รูป, วิดีโอ หรือ content อื่นๆของคุณได้เลยครับ
วิธีที่ #2: ยิงโฆษณา content ไปหาคนที่เข้ามาในเว็บ
อย่างที่ผมเคยพูดไปครับว่าคนที่เข้ามาในเว็บคุณแล้ว อย่างน้อยๆเขาก็ต้องรู้หรือรู้สึกว่าเคยเห็นชื่อของบริษัทคุณมาแล้ว เพราะฉะนั้นจะมีความเชื่อใจเกิดขึ้น คนเราจะชอบซื้อของหรือทำอะไรกับคนหรือธุรกิจที่เขาคุ้นเคยด้วยครับ

Remarketing ถ้าแปลกันตรงๆตัวเลยก็คือการกลับมาโฆษณาอีกครั้งครับ แล้วมันแปลว่าอะไรในทางการตลาดงั้นเหรอครับ?
คุณต้องเข้าใจนะครับว่าลูกค้าที่เห็นโฆษณาของคุณแล้วจะซื้อเลยทันทีจะมีอยู่แค่ 1%–2% เท่านั้น โดยเฉพาะสินค้าที่มีราคามากกว่า 99 บาท ขึ้นไปยิ่งมีเปอร์เซ็นที่จะซื้อน้อยลงไปอีก
คนเราที่ไม่ซื้อของในทันที อาจจะเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยครับ
- ตอนนั้นยังไม่พร้อม
- ตอนเห็นโฆษณากำลังเดินทางอยู่
- ลูกร้องไห้ ยังไม่มีอารมย์จะดู
- ทะเลาะกันแฟน
อะไรอีกเยอะครับ
เพราะฉะนั้น การทำ remarketing เลยเกิดขึ้นครับ remarketing ก็คือการที่เราเอาโฆษณาของเราอีกโฆษณาหนึ่งไปให้ลูกค้าดูครับ เช่น ลูกค้ากดเข้ามาจะซื้อของออนไลน์ของคุณ แล้วเกิดเปลี่ยนไป หรือ อะไรก็แล้วแต่ในเหตุผลข้างบน เราก็สามารถยิงโฆษณาอีกตัวที่บอกว่า “ลองหน่อยไหม ลดราคาอีก 10% นะ”, อะไรแบบนี้เป็นต้นครับ
เอาง่ายๆเลย remarketing คือการ”ตื้อ”ลูกค้าดีๆนี้เองครับ
สมมุติว่าคุณเข้าไปดู Analytics ของคุณแล้วเห็นว่ามีคนเข้ามาในเว็บของคุณเยอะและเห็นว่ามีคนจะซื้อของจากคุณเยอะมาก แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่ซื้อสักที
คุณเลยทำโฆษณา Remarketing ขึ้นมาเพื่อจะยิงไปหาคนที่เข้ามาแล้วไม่ซื้อเพื่อจะเสนอคูปองส่วนลดให้เพื่อจะให้เขาซื้อสินค้าที่อยู่ในตระกร้าของเขาอยู่แล้วเป็นต้นครับ
ตัวอย่างของโฆษณา Facebook Remarketing
ตัวอย่างโฆษณา Facebook Remarketing
ลองคิดตามนะครับว่าคุณเข้าไปในเว็บ Cole Haan กำลังดูรองเท้าเล่นๆ ไม่ได้คิดอะไรมากและคุณเห็นรองเท้าบูทคู่นี้แล้วเกิดสนใจขึ้นมา แต่!! ราคาแพงไปหน่อย คุณก็เลยปิดหน้าต่างไปและก็ไปทำอะไรของคุณ
คุณเข้าเช็คเฟสบุ๊คอีกทีหลังจากทำอะไรเสร็จหมดแล้ว คุณเห็นโฆษณาของ Cole Haan เกี่ยวกับรองเท้าบูทที่คุณดูพอดีเลย และก็เขียนว่า “ลด 40%” จากราคาเดิม
คุณก็เลยกด “ซื้อ” เลยทันที
เพราะว่าคุณเคยเห็นรองเท้าบูทนี้และอาจจะเอาใส่ตระกร้ามาแล้ว คุณเลยมีโอกาสที่จะซื้อสูงกว่าคนที่ไม่เคยเห็นบูทนี้เลยและกำลังจะทำความเข้าใจว่าบูทนี้เหมาะกับเขาหรือเปล่าครับ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Facebook Remarketing แบบจัดเต็มได้ที่บทความนี้ครับ: https://www.zozav.com/blog/facebook-remarketing-guide/
วิธีที่ #3: คนที่มีชื่อเสียง หรือ นักเขียนคอลัมในแวดวงธุรกิจของคุณ (influencers)
ตอนนี้เทรนด์ในการทำการตลาดแบบการใช้คนที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุกิจของคุณ (influencer marketing) กำลังมาแรงครับ

เหตุผลก็เพราะว่าการทำการตลาดออนไลน์เริ่มเติบโตขึ้น และคนที่มีชื่อเสียงออนไลน์ในแวดวงธุรกิจของคุณเขาสามารถแนะนำอะไรให้กับคนที่ติดตามเขาก็ได้ครับ
กลยุทธ์ของการทำการตลาดแบบนี้ก็เหมือนกับการที่คุณทำ Product endorsement จากดาราที่เอาเขามาโฆษณาแล้วก็บอกว่าใช้สินค้าของคุณแบบนั้นแบบนี้ หรือแม้แต่การถ่ายรูปกับสินค้าเฉยๆก็ถือว่าเป็นการตลาดแบบ Influencer marketing เหมือนกันครับ

วิธีที่คุณจะทำได้ก็คือการที่คุณแชร์ content ที่น่าสนใจที่เกี่ยวกับสินค้าของคุณให้กับคนดังๆครับ เพราะว่าคนพวกนี้เขาต้องการที่จะหาอะไรมาโพสตลอดอยู่แล้วครับ หลายๆครั้งเขาก็ไม่คิดตังด้วยซ้ำครับ
อย่าง อาจารย์ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผมเห็นแชร์ลิ้งบทความดีๆให้กับคนติดตามตลอดครับ (ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ฮ่าๆ)

เพราะฉะนั้นอันดับแรกที่คุณควรจะทำก็คือการที่คุณเข้าไปหาว่าคนที่มีคนติดตามเยอะๆในแวดวงธุรกิจของคุณคือใคร แล้วก็สร้าง content ดีๆมาแล้วก็แชร์ให้เขาครับ
วิธีที่ #3: ใช้วิดีโอเพื่อทำ content marketing ในเฟสบุ๊ค
ในตอนนี้เทรนด์เรื่องการใช้วิดีโอเพื่อทำโฆษณาหรือการตลาดใน Facebook กำลังมาแรงครับ เพราะตอนนี้เฟสบุ๊คกำลังส่งเสริมหนักมากที่อยากจะให้คนใช้ Video ในเฟสบุ๊คมากขึ้นครับ
เพราะว่าวิดีโอกำลังเข้ามาแทนที่ content แบบอื่นบนโลกออนไลน์ครับ

เมื่อก่อนตอนที่เราอยากจะดูวิดีโอ เราจะเข้าไปดูใน Mthai หรือไม่ก็ Youtube ใช่ไหมครับ? แต่ตอนนี้ Facebook อยากจะเข้ามาเป็นคู่แข่งครับ
มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก ออกมาบอกว่าคนใช้เฟสบุ๊คดูวิดีโออย่างน้อยโดยเฉลี่ยวันละ 100 ล้านชั่วโมงต่อวันและคนที่ดูวิดีโอจะอยู่ในเว็บ Facebook นานกว่าคนทั่วไปถึง 135% ครับ (อ่านเพิ่มเติม)
ผลสำรวจบอกว่าคนทำโฆษณาเริ่มอยากจะใช้วิดีโอเยอะขึ้นถึงปีละ 46% ครับ

ลองนึกถึง Facebook Live สิครับ ว่าเพจทั่วไปถ้าโพสอะไรธรรมดาไม่ค่อยมีคนเห็น แต่ถ้าเป็น Facebook Live เมื่อไหร่ จะมีแจ้งเตือนให้เห็นตลอดครับ

อย่างที่ผมบอกไปครับว่า Facebook อยากจะให้คนอยู่ในเว็บนานขึ้นและสิ่งที่ทำได้ก็คือการที่ปลุกให้คนสร้าง content ที่เป็นวิดีโอมากขึ้น มากกว่า content แบบอื่นครับ
เพราะฉะนั้นถ้าคุณทำการตลาดบน Facebook ไม่ว่าจะเป็นทางไหน ผมแนะนำให้ลองใช้วิดีโอดูครับ แล้วคุณจะเห็นความแตกต่างครับ
ถึงแม้โฆษณาในเฟสบุ๊คทั่วไป ผมยังเห็นว่าโฆษณาแบบวิดีโอยังมีราคาถูกกว่าเลยครับ
ตาคุณลองแล้ว!
การทำ Content marketing ในเฟสบุ๊คเป็นสิ่งที่แบรนด์หลายๆที่ในประเทศไทยยังไม่ทำครับ ซึ่งผมมองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่คุณสามารถเข้าไปทำได้ครับ
อย่าลืมนะครับว่าที่คุณอ่านไปในบทความนี้ในวันนี้ คุณสามารถนำเอาไปปรับใช้ได้เลยและผมแนะนำให้คุณเขียนแผนออกมาให้เป็นรูปเป็นร่างครับ จะได้เห็นภาพว่าควรจะทำยังไงต่อ
เพราะว่าถ้าคุณไม่มีแผน content marketing ชัดเจน โดยเฉพาะในโลกของโซเชี่ยวมีเดีย คุณจะไม่รู้ว่าควรไปทางไหนต่อครับ เพราะว่าในโลกโซเชี่ยวมีเดียมีตัวเบี่ยงเบนความสนใจเยอะครับ
โพสที่มีคนอ่านเยอะที่สุด:
- จาก 2 ถึง 4,227 ไลค์ (ละ ฿0.11) ทำยังไงมาดูกัน (โฆษณา Facebook)
- 87 สถิติที่คุณต้องรู้ (ถ้าทำโฆษณาใน Facebook)
- 43 ตัวอย่างโฆษณา Facebook ที่ (เจ๋งจนต้องร้องขอชีวิต) สำหรับปี 2018
- โฆษณา Facebook: 21 ไอเดียเจาะกลุ่มลูกค้าเด็ดๆ (ที่คุณอาจคิดไม่ถึง)
- Facebook Ads vs. Adwords อันไหนเหมาะกับธุรกิจคุณมากกว่ากัน?
ถ้าคุณมีคำถามอะไร ผมแนะนำให้ถามผมในคอมเม้นข้างล่างบทความนี้ได้เลยนะครับ แล้วผมจะตอบให้เร็วและดีที่สุดเท่าที่ทำได้ครับ
สำหรับวันนี้ผมขอให้คุณโชคดีและรวยๆนะครับผม 🙂
- วิธีทำ SEO ให้ keywords ติดอันดับสูงๆ บน Google - September 29, 2022
- วิธีใช้ Instagram Hashtags อย่างเซียน แบบละเอียด (ฉบับเต็ม) - September 22, 2022
- Multi-Channel Online Marketing: คืออะไร ใช้เอาชนะคู่แข่งได้ไหม? - September 15, 2022
Leave a Comment