ธุรกิจโรงแรม: วิธีทำตลาดออนไลน์ให้แขกเข้าเยอะๆ 2022

Author: Joe Jitnarin November 30, 2017 2 min read

ธุรกิจโรงแรมถ้าทำการตลาดดีๆ มีรายได้ดีมากกว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อื่นเยอะครับ โดยเฉพาะสมัยนี้ที่ใครๆก็ใช้อินเตอร์เน็ต จะไปทำการตลาดแบบโบรชัวร์หรือเปิดบูทมันก็ไม่ได้ผลเหมือนเมื่อก่อนครับ เพราะโรงแรมที่ยังคิดแบบนี้อยู่เจ๊งมาเยอะต่อเยอะแล้วครับ

วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องการทำการตลาดออนไลน์ให้กับโรงแรมของคุณ ให้มีลูกค้าเข้ามาตลอดครับ ผมจะไม่เขียนอะไรที่คุณสามารถหาได้ง่ายๆตามเว็ปทั่วไปนะครับ

อะไรที่ผมเขียนในโพสต์นี้คือมาจากประสบการณ์และความรู้ที่ผมหามาตลอดระยะเวลา 7 ปีในการทำการตลาดออนไลน์ครับ

เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

บทความนี้มีอะไรบ้าง

คุณไม่จำเป็นต้องมีเว็ปไซต์ครับ

ไม่ว่าจะมีบริษัทกี่บริษัทมาเสนอทำเว็ปให้ คุณยังไม่ควรจะตัดสินใจจ่ายเงินไปครับ เพราะตอนนี้คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะไทยหรือต่างประเทศไม่เข้าไปดูหรือจองห้องของคุณผ่านเว็ปเหมือน 5 ปีก่อนแล้วครับ

ถ้าเขาไม่จองผ่าน เว็ปเอเจ๊น อย่าง Agoda, booking หรือ traveloka ก็จะเป็นติดต่อคุณใน Facebook ไปเลย เพราะฉะนั้นคุณควรจะเก็บเงินส่วนนี้ไปลงทุนที่อื่นดีกว่าครับ

แล้วข้อเสียของการมีเว็ปไซต์อีกอย่างก็คือ คุณต้องจ้างคนทำ SEO ให้คุณเพื่อจะไปโผล่หน้าแรกของ Google อีก ถ้ามีคนรู้จักที่ทำธุรกิจโรงแรมมาปรึกษาผมเรื่องนี้ ผมไม่แนะนำให้ทำเว็ปเด็ดขาดครับ

เราควรจะไปใส่ใจกับ เว็ปพันทิป และ Tripadvisor ดีกว่า

สำหรับลูกค้าคนไทย เขาชอบไปอ่านรีวิวจากเว็ปพันทิปครับ ส่วนตัวผมก็เหมือนกันครับ ก่อนที่ผมจะจองโรงแรม ผมจะเอาชื่อโรงแรมนั้น + กับคำว่า pantip แล้วลองกูเกิ้ลดู และอย่าลืมเข้าไปดูในพันทิปบ่อยๆนะครับ เพราะจะมีคนมาถามคำแนะนำว่าโรงแรมที่ไหนดีอยู่ตลอด

อันนี้เป็นกระทู้รีวิวที่น่าสนใจครับ

และถ้าเป็นลูกค้าต่างชาติ ส่วนใหญ่ถ้าเขาไม่ดูรีวิวใน Agoda หรือเว็ปที่เขาจะจองผ่านมา เขาก็จะไปดูที่ Tripadvisor ครับ ถ้าใครที่ยังไม่คุ้นกับเว็ป Tripadvisor ลองเข้าไปดูเว็ปเขาดูนะครับ ความรู้สึกจะคล้ายๆกับเว็ป Wongnai ของไทย ที่คนที่เคยไปร้านอาหารนั้นแล้วจะมารีวิวแล้วก็อัพโหลดรูปที่ตัวเองถ่ายมาขึ้นบนเว็ปครับ แต่ TripAdvisor จะใหญ่กว่า และครอบคลุมอะไรที่เกี่ยวกับท่องเที่ยวทั้งหมดครับ

ข้อควรจำ: ถ้าไปเอาโรงแรมของคุณไปลงใน TripAdvisor แล้วควรจะมีคนดูตลอดนะครับ เผื่อมีคนมารีวิวแล้วจะได้ตอบเขาทัน ส่วนใหญ่โรงแรมที่ได้ดาวน้อยๆจะเป็นโรงแรมที่มีคนมารีวิวไม่ดีแล้วไม่ไปตอบเขาครับ อันนี้เสียชื่ออย่างมาก

ติดต่อ online travel agency อย่าง Agoda และ Booking

หลังจากได้ไปลองดูใน เว็ปพันทิปและ TripAdvisor แล้ว เรามาขั้นตอนต่อไปกันเลยนะครับ นั้นคือการติดต่อพวกบริษัท Online travel agency ทั้งหลาย บริษัทพวกนี้เขาได้งบในแต่ละปีเพื่อโฆษณาเว็ปของเขาจนตอนนี้ลูกค้าคิดว่า ถ้าจะต้องจองโรงแรม ต้องไปจองที่เขา เพราะฉะนั้นตอนนี้ถ้าคุณอยากจะให้มีลูกค้าเข้าโรงแรมคุณบ่อยๆ คุณก็ต้องติดต่อบริษัทพวกนี้เข้ามาช่วยครับ

บริษัทพวกนี้เขาจะมาถ่ายรูปโรงแรมของคุณแล้วเอาไปลงในเว็ปเขา แล้วจะคิดค่าคอมในแต่ละครั้งที่มีคนจองเขามา ค่าคอมจะอยู่ที่ตั้งแต่ 10% ถึง 35% แล้วแต่บริษัทครับ ถ้าเป็นโรงแรมใหญ่ๆก็จะเสียน้อยกว่าโรงแรมเล็กๆครับ ถ้าเป็นโรงแรมหน้าใหม่ ผมแนะนำให้ไม่ควรให้ค่าคอมเกิน 20% นะครับ ลองเจรจากับเขาดู

เว็ปที่ผมอยากจะให้เริ่มติดต่อไป ที่มีคนไทยใช้เยอะก็คือ

Agoda.com

Booking.com

Traveloka.com

Trip.com (คนจีนใช้เยอะ)

เริ่มจาก 4 เว็ปนี้ก่อนนะครับ ผมเกรงว่าถ้าไปลงเว็ปเล็กๆทั้งหลาย คุณจะเสียเวลาที่ต้องมาจัดการในแต่ละเว็ปครับ บางทีจะปวดหัวเรื่อง overbooking หรือ จองเกินกันเข้ามาอีก ต้องมาแก้ปัญหากันทีหลัง

เคล็ด(ไม่)ลับ: ทุกๆครั้งที่มีคนมารีวิวเกี่ยวกับโรงแรมของคุณออนไลน์ คุณต้องไปตอบทุกๆรีวิวนะครับ ไม่จะว่าดีหรือไม่ดี ยิ่งถ้าเป็นรีวิวที่ไม่ดี คุณต้องรีบตอบให้ไวครับ ไม่ใช่ว่าเราจะไปทำให้กับคนที่ลงรีวิวรู้สึกดีนะครับ แต่กันไม่ให้ลูกค้าคนอื่นมองว่าเราไม่มีความรับผิดชอบครับ

กลยุทธ์เด็ดที่จะนำไปโปรโมตโรงแรมของคุณ

จัดปาร์ตี้แล้วโปรโมตบน Facebook

ถ้าโรงแรมของคุณมีวิวที่ดีหรือมีสระว่ายน้ำ ลองทำ pool party ดูครับ แล้วทำ event ใน Facebook เพื่อดึงดูดคนให้เข้ามาในโรงแรมครับ คนพวกนั้นอาจจะกลายเป็นลูกค้าของคุณหรือไม่ก็อาจจะแนะนำคนที่เขารู้จักมาจองโรงแรมของคุณ

อันดับแรกหา idea ก่อนครับว่าจะทำเป็น party อะไรดี ถ้าทำ party จริงๆ อาจจะเป็นเพราะเสียงหรืออะไร คุณสามารถเปลี่ยนเป็นอะไรอย่างอื่นที่ใช้เสียงน้อยได้ครับ เช่น BBQ เป็นต้น

อันดับที่สองคือ การสร้าง event บน Facebook ครับ เริ่มจากการเข้าไปใน Facebook แล้วหาคำว่า Event ตรงนี้เลยครับ

จะเห็นหน้าต่างแบบนี้ครับ แล้วก็กดคลิก “create event”

เลือกเป็น อีเว็น สารธณะ หรือ “public event”

ใส่ข้อมูลให้ครบถ้วนครับ แล้วก็กด “create” ก็เป็นอันที่เรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้คนที่อยู่ใกล้ๆกับคุณก็จะเห็น event ที่คุณกำลังโพสท์ไปครับ

ใช้ Facebook ads เพื่อโขมยลูกค้าของคู่แข่ง

อันนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมากแล้วนะครับ กลยุทธ์ของเราก็ง่ายๆครับ ยิงโฆษณาไปให้คนที่กดไลค์โรงแรมคู่แข่งของคุณครับ

ผมจะทำให้ดูก่อนแบบง่ายๆนะครับ เพื่อจะได้เอาไปทำได้เองเลย

อันดับแรก เข้ามาใน page ของโรงแรมคุณก่อนครับ ดูว่าโพสไหนที่คุณอยากจะโฆษณา (ถ้ายังไม่มีโพส ให้รีบสร้างนะครับ)

จะได้หน้าต่างที่เป็นแบบนี้ครับ อันดับแรกต้องกดที่ “create new audience” ก่อนนะครับ มันคือการบอก Facebook ว่า เรากำลังจะเจาะจงกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่ใช่ที่ Facebook ตั้งมาให้ครับ

หลังจากนั้นก็ใส่ชื่อโรงแรมคู่แข่งของคุณทั้งหมดลงไปเลยครับ จากนั้นก็กด “save” ครับ

ตั้งงบที่อยากจะจ่ายต่อวัน เสร็จแล้วก็กด “boost” ได้เลยครับ

หลังจากนั้นก็รอ Facebook อนุมัติโฆษณา ส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีครับ หลังจากนั้นคุณก็รอได้รับลูกค้าใหม่ได้เลยครับ

สปอนเซอร์ travel bloggers

คนที่ทำบล็อกท่องเที่ยวส่วนใหญ่เขาอยากจะเขียนเกี่ยวกับโรงแรมอยู่แล้วครับ คุณอาจจะต้องให้เขาอยู่ฟรีสักคืนหรือสองคืน แต่ถ้าเป็นบล็อกเกอร์ที่มีคนติดตามเยอะๆ คุณก็อาจจะต้องจ่ายค่าการกินและค่าเดินทางให้ด้วยครับ

เคล็ด(ไม่)ลับ: ให้เขาเขียนตามใจเขาเลยครับ อย่าพยายามไปบอกหรือให้เขาเขียนตามกฎเกณของคุณ เพราะเขารู้จัก followers เขาดีกว่าคุณครับ เขารู้ว่าเขียนยังไง followers เขาถึงจะชอบ

Travel bloggers หาได้ที่ไหน?

เริ่มจาก Pantip ก่อนเลยนะครับ สำหรับเว็ปพันทิป คุณสามารถเสิร์จหาคนที่ชอบเที่ยวและมีคนติดตามเยอะๆ ได้ง่ายๆครับ

อันดับแรก ไปที่ Google พิมคำว่า เที่ยว{อำเภอของคุณ} พันทิป สำหรับผมตอนนี้ ผมจะเลือก หัวหินครับ

ผมกดคลิกเข้ามาที่ลิ้งที่ 3 ครับ แล้วเลื่นอลงมาดู มีคนกดชอบค่อนข้างเยอะครับ แสดงว่าเขารีวิวได้ถูกใจ จากนั้นกดเข้าไปดูโปรไฟล์เพื่อไปติดต่อหลังไมค์เลยครับ

แล้วก็คลิกตรงนี้เพื่อส่งข้อความหลังไมค์

พิมพ์ข้อความแล้วส่งได้เลยครับ

ลองทำแบบนี้หลายๆคนนะครับ อาจจะไม่ได้รับข้อความตอบกลับทุกอัน

ของต่างประเทศ

เข้าไปใน Google เหมือนเดิมครับ แล้วใช้คำว่า “Thailand travel blog” แล้วจะได้แบบนี้ขึ้นมา

ผมเลือกลิ้งที่ 2 ครับ คุณจะเห็นว่า เขามีลิ้งให้เราไปติดต่อ support หรือ sponsor เขาอยู่แล้วครับ

เคล็ด(ไม่)ลับ: บล็อกท่องเที่ยวโดยเฉพาะเป็นภาษาอังกฤษนี้จะมีการแข่งขันสูงมากครับ เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องห่วงเรื่องราคาเลยครับ ไม่แพงอย่างที่คิดแน่นอน

โพสที่มีคนอ่านเยอะที่สุด:

ก้าวต่อไปคืออะไร?

สิ่งที่คุณควรทำต่อไปก็แค่ใจเย็นกับมันสักหน่อยครับ เพราะว่ามันต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 วันกว่าจะเห็นผล ถ้าอยากให้เห็นผลไวๆ ก็ควรจะเริ่มโปรโมตโรงแรมตั้งแต่ก่อนที่โรงแรมจะสร้างเสร็จเลยครับ แล้วก็เอาคนที่สนใจมาลง waiting list เอาไว้

ถ้ามีคำถามอะไรคาใจ ถามผมมาได้เลยนะครับ ผมจะพยายามตอบทุกคำถามครับ

โชคดีและขอให้ขายดีๆ รวยๆนะครับ 🙂

Author
Recent Posts

Joe Jitnarin

Co-founder at ZOZAV

ผู้ร่วมก่อตั้ง zozav.com และบริษัท Global Digital Ad, Co. Ltd. ขณะนี้เป็นที่ปรึกษาให้กับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในไทยกว่า 38 บริษัท และสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ SME ในไทยมากกว่า ฿427.2 ล้านบาท โดยใช้โฆษณา Facebook และ Google

บล็อกความรู้