8 ไอเดียโฆษณา Facebook (ที่ผมใช้) หาคนขายและซื้ออสังหาริมทรัพย์

โพสต์นี้ผมทำมาเพื่อเอาใจคนทำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะเลยครับ
เพราะว่ามีคนส่งคำถามมาให้ผมทั้งใน email และ Facebook ครับว่าอยากจะให้ผมเขียนไอเดียการเจาะจงกลุ่มลูกค้าสำหรับคนทำอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ ผมเลยจัดให้ครับ
ก่อนที่เราจะไปไกลกว่านี้ผมอยากจะบอกก่อนเลยนะครับว่าสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การขายใน Facebook อาจจะยากหน่อยเพราะว่าเป็นมันอะไรที่มีราคาแพง
แต่ผมมั่นใจครับว่าถ้าอ่านโพสต์นี้แล้วคุณจะสามารถเอาไปปรับใช้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของคุณได้แน่นอนครับ
ถ้าคุณยังไม่มีไอเดียที่จะเอาไปเจาะจงกลุ่มเป้าหมายเจ๋งๆ ผมแนะนำให้ดูโพสนี้เลยครับ: โฆษณา Facebook: 21 ไอเดียเจาะกลุ่มลูกค้าเด็ดๆ ที่คุณอาจจะนึกไม่ถึง
บทความนี้มีอะไรบ้าง
ทำยังไงถึงจะได้ประโยชน์จากโพสนี้ที่สุด
- จดไอเดียที่ได้จากโพสนี้แล้วนำเอาไปคุยกับทีมของคุณ
- ลองทำโฆษณาตามผม
- ดัดแปลงไอเดียที่ผมให้ในบทความนี้เพื่อให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
- ทดลองทำ A/B test กับกลุ่มเป้าหมายหลายๆกลุ่ม
ตอนนี้เมื่อเข้าใจตรงกันแล้ว เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับว่าทำยังไงคุณถึงจะเริ่มเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ถูกต้องสักที
สร้างโฆษณา Facebook ให้ถูกต้อง (step-by-step)
ก่อนอื่นที่จะเริ่มสร้างโฆษณากันได้ ผมอยากจะบอกก่อนนะครับว่าคุณต้องมี “แฟนเพจ” ก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นต้องรีบไปทำก่อนเลยครับ
หลังจากนั้นเรามาดูกันครับว่าต้องทำยังไงถึงจะสร้างโฆษณา Facebook ได้ดี มาเริ่มกันเลยครับ
Step #1: เข้าไปที่ Ad manager ครับ แล้วจะเจอเพจหน้าตาแบบนี้ครับ แล้วก็คลิกปุ่มเนี้ยเพื่อสร้างโฆษณาเลยครับ
99/day Facebook Ads
Step #2: เราจะมาที่หน้านี้ครับ Facebook จะถามว่าวัตถุประสงค์ของโฆษณาของคุณเป็นยังไง หรือ คุณต้องการอะไรจากโฆษณานี้นั้นเองครับ
ตอนแรกๆไม่ต้องไปสนแถว 1 กับ แถวที่ 3 ครับ สนแต่แถวตรงกลางก็พอ
สำหรับในการสาธิตนี้ผมจะเลือก “traffic” (คนเข้าเว็บ) นะครับผม
99/day Facebook Ads
Step #3: เรามาเริ่มสร้างกลุ่มลูกค้าให้ถูกต้องกันครับ เพราะว่าโฆษณาของคุณจะรุ่งหรือจะร่วงส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับการเจาะจงกลุ่มลูกค้า (audience targeting) ทั้งนั้นครับ
อันดับแรกเรามาดูตรงนี้กันครับ
99/day Facebook Ads
- จังหวัดและพื้นที่ — คุณต้องทำการบ้านมาก่อนนะครับว่ากลุ่มลูกค้าของคุณคือใคร หรือถ้าไม่ได้ทำมาก็ไม่เป็นไรครับ ปล่อยให้เป็น “Thailand” ไปเลยครับ แล้วค่อยมาดูทีหลังว่าจังหวัดไหนให้ผลตอบรับดีที่สุด
- อายุ — อันนี้ไม่ต้องห่วงครับ ปล่อยให้ Facebook รันโฆษณาไปก่อนเลยครับ เราค่อยมาดูว่ากลุ่มไหนได้ผลดีที่สุดแล้วค่อยเปลี่ยนทีหลัง กฎของการทำโฆษณาคืออย่าคิดไปเองครับ ให้ข้อมูลและตัวเลขเป็นคนบอกดีกว่า
- เพศ — เหมือนกับอายุครับอย่าไปเดาว่าเพศหญิงหรือชายใครจะสนใจโฆษณาคุณมากกว่ากัน ผมเคยเจอสินค้าบางตัวอย่างแหวนงี้อะครับ คิดว่าจะไม่มีผู้ชายซื้อแต่ก็มีเยอะจนน่าตกใจเลยครับ
- ภาษา — อันนี้ก็เหมือนกันครับ อย่าไปห่วงเพราะเราไม่รู้ครับว่ากลุ่มลูกค้าของเราตั้ง Facebook ให้เป็นภาษาอะไร นอกจากคุณจะ target คนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย อันนั้นก็ว่ากันอีกทีหนึ่ง
หลังจากที่ทำข้างบนไปแล้ว เรามาดูพระเอกสำคัญของเราเลยดีกว่าครับ นั้นก็คือการเจาะจงกลุ่มลูกค้า (detailed targeting) ครับ
99/day Facebook Ads
ผมจะมาแนะนำการทำนิดหน่อยนะครับให้คุณสามารถเอาไปทำเองได้เลยหลังจากที่อ่านเสร็จแล้ว
ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจว่าการเจาะจง “ความสนใจ” (interest) ใน Facebook มันไม่ตรงนะครับ เพราะฉะนั้นคุณไม่สามารถที่จะใช้กลยุทธิ์ธรรมดาเพื่อจะดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้อีกต่อไปแล้วครับ
ที่เราจะทำในวันนี้ผมอยากจะเรียกมันว่า “รวมความสนใจ” หรือ “combined interests” ครับผม
หน้าตาจะเป็นแบบนี้ครับ อันนี้คือที่ผมทำให้กับโฆษณาของผมตัวหนึ่งนะครับ
99/day Facebook Ads
สิ่งที่ผมทำก็คือ “ผมเจาะจงหลายชั้นครับ”
- เจาะจงคนที่ชอบเสื้อ t-shirt
- ต้องมีความสนใจทำธุรกิจด้วย
- ต้องติดตามเว็บ marketing oops ด้วย
เพราะอะไรครับ? ก็อย่างที่ผมบอกไปเลยครับว่าการทำโฆษณาส่วนใหญ่เราจะไปเจอคนที่ไม่ค่อยสนใจสินค้าของเราเท่าไหร่
อย่างใน Facebook ถ้าคุณเกิดเลื่อนๆดู feed เล่นๆแล้วเกิดไปเห็นคลิปไฟท์ของบัวขาวแบบนี้ครับ
99/day Facebook Ads
แล้วคุณก็กดไลค์ไป Facebook ก็จะถือว่าคุณเป็นคนที่มีความสนใจเรื่อง “หมัดมวย” ครับผม ทั้งๆที่ยังไม่แน่ใจเลยครับว่าคุณชอบมวยจริงหรือเปล่า
เพราะฉะนั้นผมเลยต้องเจาะจงหลายๆชั้นไว้ก่อนครับ ไม่งั้นจะเจอคนที่ไม่สนใจสินค้าเยอะ
Step #4: มาดูว่าตัว placements อันไหนที่จะเหมาะกับโฆษณาของคุณกันครับผมจริงๆแล้วผมไม่กล้าจะบอกนะครับว่าอันไหนดีที่สุดเพราะว่ามันขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายของคุณล้วนๆเลยครับ
แต่ผมอยากจะให้คุณได้ความรู้จากบทความนี้จริงๆ ผมเลยอยากจะบอกคร่าวๆให้คุณเข้าใจครับ
Facebook Feed: จะได้ผลมากที่สุดครับถ้าเทียบกับ placements อื่นๆ เพราะว่าคนที่อยู่หน้า feed ของเฟสบุ๊คจะไม่ชิวเท่ากับ Instagram ครับ
Instagram: จะได้ผลดีที่สุดเมื่อตอนที่โฆษณาหรือสินค้าของคุณถ่ายรูปขึ้นครับ เช่นเป็นอาหารหรืออะไรแบบนี้ครับ จะได้ผลดี แต่ถ้าเป็นอย่างอื่นจะไม่โอเคเท่าไหร่ครับ
99/day Facebook Ads
Mobile VS. Desktop อันไหนดีกว่ากัน?
คนที่ทำโฆษณามาสักพักก็คงจะรู้นะครับว่า เจาะจงคนที่ใช้ Desktop จะได้ conversion ที่ดีกว่าอยู่แล้วครับ มันเป็นเพราะว่าคนที่ใช้มือถือหรือแท็บเลตส่วนใหญ่เข้าจะไม่ค่อยจริงจังตอนที่เล่นครับ อาจจะเล่นแก้เบื่อเฉยๆ ไม่ได้อยากจะซื้ออะไร
แต่ถ้าเป็นคนที่ใช้คอม เขาอาจจะกำลังมองหาอะไรอยู่ก็ได้ เช่น อยากจะหาซื้อเสื้อผ้า หรือ รถมือสองสักคน อะไรประมาณนี้ครับ พอเข้าใจใช่ไหมครับ?
หลังจากเลือกตัวนี้แล้ว เราก็มาตัวต่อไปเลยครับ
Step #4: ตอนนี้เรามาตั้งค่าตัว bidding กันครับ หลายๆคนไม่รู้ครับว่าต้องตั้งเท่าไหร่ดีถึงจะถูกต้อง เรามาดูกันเลยครับ
ตัว bidding นี้จริงๆแล้วมันค่อนข้างจะซับซ้อนกว่าที่เห็นนะครับ ถ้าผมจะพูดในบทความนี้ผมกลัวว่ามันจะยาวไปหน่อยครับ เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะรู้ ให้คอมเม้นไว้นะครับแล้วผมจะมาเขียนให้อ่าน
99/day Facebook Ads
ตอนที่คุณทำแรกๆ ไม่ต้อง set ตัว bidding นะครับ เพราะว่าถ้าคุณกำลังเริ่มใหม่อยู่ คุณไม่น่าจะทำเป็นครับ
หลายๆคนทำแล้วโฆษณาไม่รันเลยเพราะตั้งน้อยไป เราไม่รู้ได้แน่ชัดหรอกครับว่าจะได้เท่าไหร่ เพราะฉะนั้นปล่อยให้ Facebook ตั้งไปก่อนครับ แล้วค่อยมาเปลี่ยนทีหลัง
หลังจากนั้นก็กด “continue” (ต่อไป) เลยครับ แค่นี้ส่วนสำคัญในการสร้างโฆษณา Facebook ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับผม
8 กฎเหล็กที่ต้องจำถ้าอยากให้โฆษณา “ราคาถูก”
จำไว้นะครับ ว่าการทำโฆษณาทุกๆครั้ง คุณต้องรู้ว่าอะไรควรจะทำและอะไรที่ควรจะหลีกเลี่ยงครับ
วันนี้คุณไม่ต้องไปหาที่ไหนแล้วครับ เพราะผม list มาให้เรียบร้อยแล้ว มาดูกันเลยดีกว่าครับ
- ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน — มันอาจจะเป็นอะไรที่ฟังดูง่ายๆนะครับแต่หลายๆคนพลาดตรงนี้ไปครับ คุณต้องชัดเจนก่อนที่คุณจะทำโฆษณาได้ครับว่าคุณต้องการอะไรจากเคมเปนนี้
- ตั้งเป้าหมายให้ถูกต้อง — หลังจากตั้งชัดเจนแล้วต้องตั้งให้ถูกด้วยครับ เช่น คุณต้องตั้งเป้าหมายให้เป็น sales หรือ leads ครับ ไม่ใช่แค่ให้มีคนเห็นหรือไลค์ เพราะมันเป็นอะไรที่ไม่จำเป็นครับ (vanity metrics)
- อย่าสร้างแค่โฆษณาเดียว — การทำโฆษณาทุกๆอย่างครับถ้าคุณไม่สร้างโฆษณามาหลายๆแบบเอามา A/B testing กัน คุณก็จะพลาดโอกาสหลายอย่างครับ เช่น รูปโฆษณาของคุณอาจจะยังไม่ดีพอแต่คุณไม่รู้เพราะว่าไม่ได้ทดลองดู เป็นต้นครับ
- อย่า A/B test ทุกๆอย่าง — หลายๆคนอ่านเรื่อง A/B testing มาแล้วอยากจะลองเปลี่ยนแปลงโฆษณาดูว่าอันไหนได้ผลดีหมด ผมบอกเลยนะครับว่าการทำแบบนี้ดีครับ เพราะจะทำให้คุณเข้าใจลูกค้ามากขึ้น แต่อย่าทำเยอะเกินไปครับ
- ตั้ง daily budget — ตั้ง daily budget ให้ไม่เกินวันละ 100 บาทครับ อย่าไปหวังแต่ Facebook จัดการงบให้โดยการใช้ lifetime budget ครับ
- อย่าไปคิดมากกับ placements — หลายๆคนที่ทำใหม่อาจจะกังวลและอยากที่จะเข้าใจทุกๆอย่างก็เลยเลือก ad placements มั่วๆและคิดว่าจะได้ผลดีที่สุด มันไม่ใช่นะครับ ในการทำโฆษณา ผมเคยบอกไปแล้วครับว่าต้องทดลองอย่างเดียวถึงจะรู้ อย่าเดาเอาครับ
- ต้องใช้ Facebook Pixel — ตัวนี้ผมพูดย้ำบ่อยมากครับไม่ว่าจะเป็นใน ebook ของผมหรือบล็อกผม โฆษณา Facebook pixel จะสำเร็จได้หรือเปล่าขึ้นอยู่กับข้อมูลฐานลูกค้าที่คุณสร้างครับ แล้ว Facebook pixel จะเป็นตัวที่ช่วยจำข้อมูลอะไรพวกนี้ทั้งหมดครับ
- ต้องใช้ Facebook Remarketing — อย่างที่ผมเคยบอกไปครับว่าโฆษณาหลายๆอย่างข้อเสียก็คือไม่ว่าเราจะยิงโฆษณาดียังไง มันก็ไปโดนคนที่ไม่ค่อยสนใจอยู่แล้วครับ เพราะฉะนั้นตัว Faebook remarketing ก็จะเป็นตัวเปลี่ยนครับ
ข้อควรจำ: 8 อย่างที่ผมพูดไปข้างบนนี้สำคัญมากๆนะครับ เพราะฉะนั้นอย่างจะให้อ่านและเข้าใจให้ดีเพื่อความสำเร็จของคุณเองครับ
4 ไอเดียหาคนที่อยากจะขายอสังหาริมทรัพท์
คนที่ทำอสังหาริมทรัพย์ก็รู้ๆกันอยู่นะครับว่าการที่เราจะประสบความสำเร็จในการทำบริษัทแบบนี้ได้คือต้องหาอสังหาริมทรัพย์มาขายให้ได้ตลอด เพราะฉะนั้นผมจะมาแชร์ไอเดียที่ผมใช้แล้วได้ผลจริงครับผม
ไอเดีย #1: คนที่กำลังหย่าร้าง
ตามประเพณีของบ้านเรา ถ้าแต่งงานกันควรจะซื้อเรือนหอไว้สัก 1 หลังใช่ไหมครับ เพื่อจะได้อยู่กันอย่างมีความสุขและเริ่มชีวิตคู่กันด้วยดี
แต่สถิติของการหย่าร้างในประเทศไทยเราเพิ่มขึ้นทุกวันครับ

หลังจากหย่าแล้วจะทำยังไงต่อกับเรือนหอครับ? หลายๆคนต้องขายทิ้งครับ เพราะฉะนั้นคนที่เข้าไปจับกลุ่มคนพวกนี้ได้เร็วและทัน จะสามารถได้บ้านมาขายได้หลายๆหลังแบบง่ายๆเลยครับ
วิธีเข้าไปใช้การเจาะจงนี้ก็ง่ายๆครับ ลองเข้าไปค้นหาคำว่า “divorce” ครับ
แล้วก็ใช้คำแนะนำอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับการหย่าร้างให้หมดครับ รับรองว่าคุณได้กลุ่มเป้าหมายที่สมใจอยากแน่นอนครับ
ไอเดีย #2:คนที่แยกกันอยู่
ไอเดียนี้ก็คล้ายๆกับการหย่าร้างเลยครับ เพียงแต่แยกกันอยู่ก่อนเท่านั้นเองครับ คนที่แยกกันอยู่ก็รู้ๆกันอยู่แล้วว่าก็จะหย่ากันครึ่งทางอยู่แล้วครับ
เพราะฉะนั้นให้คุณเข้าไปเจาะจงเขาก่อนที่คู่แข่งของคุณจะฉกเขาไปครับ
คุณสามารถเข้าไปในช่อง “detailed targeting” แล้วก็กดค้นหาคำว่า “separated” ครับ หลังจากนั้นก็กดเข้าไปเลยครับ
ผมแนะนำให้คุณใช้ “คำแนะนำ” ที่ Facebook ให้มาที่เกี่ยวกับการแยกกันอยู่ให้หมดครับ เพราะว่าเราต้องการให้กลุ่มเป้าหมายของเรากว้างไว้ก่อนครับ
เพราะถ้ากลุ่มเป้าหมายของคุณแคบ คุณอาจจะโดนค่าโฆษณาแพงก็ได้ครับ
ไอเดีย #3: คนที่กำลังย้ายที่อยู่
Facebook เก็บข้อมูลของคนไว้เยอะมากครับ และ Facebook รู้ว่าสถาการณ์ชีวิตคุณเป็นยังไงและรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ (เดาจากสิ่งที่คุณโพสอยู่ตลอด)
สำหรับคนที่กำลังย้ายที่อยู่ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเพราะงานหรืออะไรก็แล้วแต่เหตุผลของเขา คุณคิดว่าเขาอยากจะทำอะไรกับที่อยู่เก่าของเขาครับ?
ถ้าไม่ขายก็ให้เช่าใช่ไหมครับ?
สำหรับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพทย์อย่างคุณ นี้เป็นโอกาสที่ดีมากที่จะเข้าไปจับกลุ่มเป้าหมายนี้ครับ
คุณสามารถเข้าไปใน “demographics” แล้วเข้าไปหาคำว่า “recently moved” ครับ หรือไม่ก็สามารถพิมพ์เข้าไปใน “detailed targeting” ได้เลยครับ มันจะขึ้นมาเหมือนกันครับ
ไอเดีย #4: คนที่กำลังได้งานใหม่
คนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่คนทำโฆษณามองข้ามครับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่เข้าใจครับ คนกลุ่มนี้หลายๆคนเขามีบ้านอยู่แล้วครับ
แต่เขาได้งานใหม่และเขาต้องย้าย และงานใหม่ดูมีความมั่นคงสามารถทำได้นาน เขาก็อาจจะตัดสินใจขายบ้านเก่าเขาทิ้งแล้วมาซื้อบ้านใหม่ก็ได้ครับ
เพราะฉะนั้นคนกลุ่มนี้น่าสนใจและผมก็ใช้การเจาะจงนี้ให้กับลูกค้าของผมตลอดครับ
4 ไอเดียหาคนที่อยากจะซื้ออสังหาริมทรัพท์
เราพูดถึงการหาคนที่อยากจะขายอสังหาริมทรัพท์ไปแล้วนะครับ เรามาพูดถึงคนที่อยากจะซื้ออสังหาริมทรัพท์กันเลยดีกว่าครับ
ไอเดีย #1: กำลังหมั้น & แต่งงาน
ในประเทศไทยคนที่แต่งงานก็มีเยอะไม่แพ้คนที่หย่าเลยครับ เรามาดูสถิติที่ผมได้มาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสกันครับ

อย่างที่เราพูดกันไปในไอเดียแรกครับว่า ในประเพณีของไทยคนที่แต่งงานกัน ส่วนใหญ่เขาควรจะซื้อบ้านหรือเรือนหอกันเอาไว้เพื่อเริ่มชีวิตคู่กันครับ
เพราะฉะนั้นคนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่หาซื้อบ้านหรือคอนโดอยู่ครับ
ส่วนตัวผมแล้ว ผมชอบใช้การเจาะจงนี้มากในการทำโฆษณาให้กับลูกค้าที่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพท์มากครับ เพราะว่าส่วนใหญ่จะได้ผลตลอดครับ
ไอเดีย #2:เจาะจงคนที่กำลังมีลูก
คนที่กำลังมีลูกอาจจะกำลังหาซื้อบ้านอยู่ก็ได้ครับ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้มีบ้านเป็นของตัวเองตอนแต่งงานกันครับ
ถึงแม้เขาจะมีคอนโดอยู่แล้วเขาก็อาจจะอยากให้ลูกเขาโตขึ้นมาในบ้านครับที่มีพื้นที่ใช้สอยให้วิ่งเล่น เพราะฉะนั้นผมคิดว่าคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ควรจะเจาะจงครับ
ค้นหาใน “behavior” แล้วก็เลื่อนลงมาหน่อยจะเจอ “all parents” ครับ คลิกตรงนั้นแล้วจะเห็นแบบนี้เลยครับ
ไอเดีย #3: คนที่อยู่ไกลจากบ้าน
คนที่อยู่ไกลจากบ้านอาจจะกำลังหาที่ๆเขาสามารถซื้อแล้วปักหลักปักฐานได้ครับ เพราะในสมัยนี้ที่คนเริ่มไม่ได้อยู่บ้านเกิด หลายๆคนไปเข้าเมืองหลวงเพื่อไปหางานทำครับ หลายๆคนออกไปต่างประเทศเพื่อทำงาน
คนพวกนี้ถ้าเขาได้งานที่ดีแล้ว เขาอาจจะอยากซื้อบ้านหรือที่ดินเอาไว้ครับ ยิ่งถ้าเป็นคนที่ทำงานที่มั่นคงแล้ว เขาไม่อยากจะย้ายไปไหนแน่นอนครับ
ลองหาคำว่า “away from hometown” ดูครับ
อีกอย่าง ถึงแม้เขาจะไม่ได้อยู่บ้านที่เขาซื้อไว้ เขากลับบ้านเกิด เขาก็สามารถปล่อยเช่าบ้านที่เขาซื้อไว้แล้วมีรายได้เสริมครับ
ไอเดีย #4: เจาะจงข้าราชการ
เราๆก็รู้กันดีนะครับว่าข้าราชการเขามีเงินเดือนมั่นคงอยู่แล้วและส่วนใหญ่เขาสามารถกู้แบงค์มาซื้อบ้านได้ง่าย เพราะฉะนั้นซื้อบ้านไม่มีปัญหาแน่นอนครับ
และข้าราชการส่วนใหญ่แล้วจะทำงานตรงนั้นจนเกษียณอายุแน่นอนครับ เพราะฉะนั้นถ้าเขาได้ย้ายไปที่ไหนที่มั่นคงแล้ว ส่วนใหญ่จะอยู่แบบนั้นตลอดไป (จนเกษียณอายุ) ครับ
ใช้คำค้นหาคำว่า “government employees” ครับ
แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ถ้าลืมใส่ความสนใจอื่นเข้าไปด้วยนะครับ จะได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
เพราะถ้าใส่แค่ “government officials” อาจจะไม่ได้ผลพอ อาจจะเจาะจงอายุไปด้วยก็ได้ครับ เพราะว่าข้าราชการที่มีอายุแล้ว อาจจะไม่อยากซื้อบ้านเพราะมีอยู่แล้วก็ได้ครับ
ตาคุณแล้วครับ!
การทำโฆษณาใน Facebook มีตัวเลือกเยอะมากครับและถ้าคุณอยากจะเรียนรู้ได้ดีและมีประสิทธิถาพ คุณต้องลองเอาไปทำเองดูครับ
ผมแนะนำให้เอาไอเดียที่ผมแชร์ให้ในบทความนี้ไปลองใช้ดูครับ อาจจะเริ่มจากโฆษณาราคาไม่แพง (100 – 300 ต่อวัน) ก่อนก็ได้ครับ
ถ้าเริ่มเห็นกำไรแล้ว ก็ค่อนๆปรับขึ้นไปครับ ผมแนะนำให้อ่านบทความข้างล่างนี้เพื่อเพิ่มความรู้เกี่ยวกับโฆษณา Facebook ให้เยอะขึ้นเรื่อยๆนะครับ
ตอนไปทำจริงจะได้ไม่ขาดทุนเปล่าๆครับ
โพสที่มีคนอ่านเยอะที่สุด:
- จาก 2 ถึง 4,227 ไลค์ (ละ ฿0.11) ทำยังไงมาดูกัน (โฆษณา Facebook)
- (เนื้อหาปี 2022) วิธีทำโฆษณา Facebook วันละ 99 บาท แต่ได้ผลจริง (เหมาะสำหรับคนเริ่มใหม่)
- วิธีทำโฆษณา Instagram & สร้างกลุ่มเป้าหมายขั้นสูง (เนื้อหา 2022 อัพเดท)
- วิธีทำ SEO ให้ขึ้นหน้า 1 ของ Google ขั้นเทพ (สำหรับมือใหม่)
- โฆษณา Facebook: 21 ไอเดียเจาะกลุ่มลูกค้าเด็ดๆ (ที่คุณอาจคิดไม่ถึง)
- Facebook Ads vs. Adwords อันไหนเหมาะกับธุรกิจคุณมากกว่ากัน?
สำหรับวันนี้ผมขอให้คุณโชคดีและโฆษณาได้กำไรเยอะๆนะครับ 🙂
- วิธีทำ SEO ให้ keywords ติดอันดับสูงๆ บน Google - September 29, 2022
- วิธีใช้ Instagram Hashtags อย่างเซียน แบบละเอียด (ฉบับเต็ม) - September 22, 2022
- Multi-Channel Online Marketing: คืออะไร ใช้เอาชนะคู่แข่งได้ไหม? - September 15, 2022
Leave a Comment