Facebook Ads vs. Google Ads อันไหนเหมาะกับธุรกิจคุณมากกว่ากัน?

หลายๆคนตัดสินใจไม่ได้นะครับว่าถ้าจะโฆษณาธุรกิจของคุณจะใช้อะไรดี Facebook หรือ Google มันเป็นคำถามที่น่าสนใจครับและผมมั่นใจว่าหลายๆคนก็ต้องอยากรู้เหมือนกัน
ผมบอกก่อนเลยนะครับว่าโพสนี้จะไม่มีรูปเยอะเหมือนโพสอื่นครับ เพราะส่วนใหญ่จะเป็น data และประสบการณ์ของผมที่ทำ PPC ทั้ง Google Ads ละก็ Facebook ads มานาน
สำหรับคนส่วนใหญ่มีในหัวก็คือ: เริ่มทำโฆษณาอันไหนก่อนดี?
ผมเป็นคนที่โฆษณาออนไลน์ส่วนใหญ่นะครับและอยากจะบอกเลยว่านับวันมันก็ยิ่งแพงขึ้นครับ หลายๆคนอาจจะคิดว่า “เห้ย ตูเป็นเองหรือเปล่าฟ๊ะ?” ไม่ครับ เป็นกันทุกคน
แล้วโฆษณาออนไลน์ก็จะแพงขึ้นเรื่อยๆครับ เพราะว่ามันกำลังมาแทน TV แล้ว เพราะว่าโฆษณาออนไลน์อย่าง Facebook และ Google Ads สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ตรงจุดมากกว่า TV ครับ
โฆษณา TV พูดง่ายๆคือส่วนใหญ่เป็นการโฆษณาแบบ blanket นั้นก็คือเหมือนกันทอดแห ทอดไปกว้างๆแล้วค่อยมาดูว่าได้ปลากี่ตัว แต่ถ้าเป็น Facebook คุณสามารถเจาะจงกลุ่มลูกค้าได้ลึกและถึงตัวมาก
แล้วโฆษณาออนไลน์ตอนนี้ตัวเลือกที่เรามีให้เห็นอยู่ชัดๆก็มีแค่ 2 ตัวเท่านั้นครับก็คือ Facebook Ads และ Google Ads
วันนี้ผมเลยอยากจะมาพูดถึงความแตกต่างระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่นี้แล้วมาดูกันครับว่าอันไหนน่าจะเหมาะกับธุรกิจของคุณมากที่สุด
บทความนี้มีอะไรบ้าง
Facebook Ads:
ข้อดี:
- เริ่มต้นง่าย คลิกไม่ถึง 10 ครั้งก็เริ่มโฆษณาได้แล้ว
- คนเห็นโฆษณาเร็วและได้ traffic เข้าเว็บทันที
- ค่า CPC ค่อนข้างถูกถ้าเทียบกับ Adwords
- ใช้รูป วิดีโอ และอะไรหลายๆอย่างเพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้
- สามารถเจาะจงกลุ่มลูกค้าได้แม่นยำเพราะมีตัวเลือกมากกว่า Adwords
ข้อเสีย
- ถึงจะสร้างโฆษณาง่ายแต่ถ้าสร้างผิดจะแพงมาก
- ถึงแม้จะเจาะจงได้ลึกกว่า Adwords แต่ไม่ได้แปลว่าจะตรงเสมอไป
- ส่วนใหญ่จะได้ผลตอนโฆษณาให้กับ B2C เท่านั้น
- คนส่วนใหญ่จะชิวและไม่ค่อยสนใจโฆษณามากนัก (ถ้าไม่มีประโยชน์จริงๆ)
Google Adwords:
ข้อดี
- มีอุปกรณ์ตัวช่วยเยอะทำให้อ่านผลลัพท์ได้ง่าย
- กลุ่มลูกค้ามีโอกาสซื้อมากกว่า Facebook ads เพราะว่าเขามาค้นหา keyword เพราะอยากจะได้ความช่วยเหลือจริงๆ
- เจาะจงกลุ่มลูกค้าได้ดี
- ได้ traffic เร็ว
ข้อเสีย
- Google Ads ต้องใช้เวลาเข้าใจถึงจะประสบความสำเร็จได้ เพราะฉะนั้นต้องทดลองเสียตังไปก่อน
- ใช้ได้แค่ตัวหนังสือเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าเท่านั้น
- สร้างโฆษณาใช้เวลาค่อนข้างนาน
- บาง keyword แพงมากๆ (ลูกค้าผมคนหนึ่งยอมจ่าย 500+ บาท ต่อคลิก)
หลังจากรู้คร่าวๆกันไปแล้วว่า Facebook Ads กับ Google Ads มีข้อดีข้อเสียต่างกันยังไง เรามาทำความเข้าใจกันดีกว่าครับว่า: ตอนไหนที่ Facebook ads ทำงานได้ดีที่สุด และ ตอนไหนที่ Google Ads ทำงานได้ดีที่สุด
เรามาเริ่มกันก่อนเลยครับ
Google Ads ได้ผลดีตอนไหนที่สุด?
โดยทั่วๆไปแล้ว Google Ads จะได้ผลดีที่สุดตอนที่กลุ่มเป้าหมายของคุณคุ้นเคยกับรูปแบบสินค้าหรือบริการของคุณอยู่แล้วครับ เช่น ถ้าคุณขายสิ่งค้าอะไรแปลกๆที่คนเขาไม่ค่อยรู้จักกัน อันนี้จะขายยากหน่อยครับ
แต่ถ้าคุณขายสินค้าหรือบริการทั่วไปเช่น เสื้อผ้า แว่นตา บริการสอนขับรถยนต์ อะไรแบบนี้เป็นต้นก็ไม่มีปัญหาครับ
แต่ก่อนที่จะทำ Google Ads คุณต้องเข้าใจ keywords ของคุณให้ถ่องแท้ก่อนครับ ดูก่อนว่ามีคนค้นหาโดยใช้ keyword ของคุณเยอะไหมและคุณต้องเข้าใจ “search intent” ของ keyword ตัวนั้นด้วยครับ ถ้าหลายๆคนยังไม่คุ้นกับคำนี้ ผมจะอธิบายคร่าวๆให้ฟังครับ
Search intent — คือตัวที่บ่งบอกว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณกำลังอยู่ใน Stage ไหนของการซื้อครับ stage ในการซื้อจะมีอยู่ 3 ตัวครับ, awareness (รู้จักสินค้า), consideration (คิดว่าจะซื้อหรือเปล่า), และตัวสุดท้ายคือ purchase (พร้อมจะซื้อ) ครับ
ตัวอย่าง “keyword (คำค้นหา)”
- Facebook Ads คืออะไร? = Awareness stage — กลุ่มเป้าหมายยังไม่เข้าใจครับว่า Facebook ads คืออะไร ถ้าจะไปขายบริการทำโฆษณาให้เขาคงไม่ซื้อครับเพราะเขาแค่อยากจะเข้าใจว่ามันคืออะไร
- ซื้อโฆษณา Facebook = purchase stage — กลุ่มเป้าหมายเข้าใจแล้วว่าโฆษณา Facebook คืออะไรและพร้อมที่จะจ้างคนมาทำให้ (หรือทำเองใน Facebook ก็ว่ากันไปครับ)
ต้องระวังตรงนี้ครับ และอีกอย่างอย่าใช้ keyword ที่มันกว้างเกินไปนะครับ ส่วนใหญ่ถ้าอยากจะได้ผล ต้องลองหา long tail keywords ดูครับ
Long tail keywords พูดง่ายๆเลยก็คือ keyword ที่มีมากว่า 1–2 คำนั้นเองคำ keyword ยาวนั้นเอง
สุมมติถ้าผมหาคำว่า “คุ๊กกี้” — long tail keywords จะเป็นแบบนี้ครับ

Google Ads ไม่ได้ผลตอนไหน?
อย่างที่ผมพูดไปตอนแรกครับว่า Adwords ไม่เหมาะกับรูปแบบสินค้าหรือบริการที่กลุ่มเป้าหมายไม่คุ้นเคย พูดง่ายๆคือไม่เหมาะกับ early adopters ครับหรือคนที่อยากลองอะไรใหม่ๆ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสินค้าของคุณเป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีแบบใหม่ที่ออกมาและคนยังไม่คุ้นเท่าไหร่แต่คุณอยากจะให้คนรู้จักเยอะๆ อันนี้ไม่โอเคครับ
Facebook Ads ได้ผลดีที่สุดตอนไหน?
ถึงแม้ว่า Facebook จะไม่มี search intent เหมือนกับ Google Adwords แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะด้อยกว่าในเรื่องการ targeting นะครับ เพราะว่าถ้าคุณรู้จักลูกกลุ่มเป้าหมายและทำการบ้านมาดี Facebook Ads จะได้ผลดีมากเลยครับ
แต่จำไว้นะครับว่าคุณต้องทำการบ้านเกี่ยวกับว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นใครและชอบอะไรมาให้ดีนะครับ อย่าเอาแต่จะเจาะจงคนแค่ “interest” หรือ “ความสนใจ” อย่างเดียวนะครับ
เพราะอะไรงั้นเหรอครับ? เพราะว่าแค่คุณเผลอไปกดไลค์รูปแมว Facebook ก็ถือว่าคุณสนใจอะไรเกี่ยวกับแมวแล้วครับ เพราะฉะนั้นเจาะจงคนสนใจแมวอย่างเดียวไม่พอแน่นอนครับ
สิ่งที่คุณต้องทำคือ
- ไปดูว่าคนชอบแมวส่วนใหญ่ชอบอะไรเหมือนๆกัน
- แล้วเอา interest มารวมกันครับ
หน้าตาจะเป็นแบบนี้ครับ ผมรวมความสนใจอย่างน้อยๆเลย 4 ตัวครับ อันนี้เป็น targeting ที่ผมใช้ให้กับ 1 ในแคมเปนที่ผมรันอยู่ครับ

และอีกอย่างหนึ่งคือ Facebook จะได้ผลดีมากครับถ้าคุณมีวิดีโอที่สาธิตการใช้งานของสินค้าของคุณ ไม่เหมือนกัน Google Ads ที่คุณทำแบบนี้ไม่ได้ครับ
เพราะฉะนั้น Facebook จะดีกับลูกค้าทุกแบบของคุณครับ โดยเฉพาะ early adopters ถ้าสินค้าของคุณยังไม่ได้เป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่
อันนี้คือหนึ่งในวิดีโอที่สาธิตการใช้สินค้าได้ดีมากครับ
อย่างที่บอกนะครับว่าคุณสามารถโฆษณาสินค้าของคุณให้กับคนทุกแบบรูปแต่ต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณให้ดีก่อนครับ
Facebook Ads ไม่ได้ผลตอนไหน?
ตามที่พูดไปก็คือ Facebook ads ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับถ้าคุณทำโฆษณา B2C แต่ถ้าเป็น B2B (ขายให้กับธุรกิจ) เมื่อไหร่ละก็ อันนี้จะมีปัญหาหน่อยครับ เพราะว่าคนส่วนใหญ่ใน Facebook จะชิวกว่ามาก
คนเข้าไปเล่น Facebook ส่วนใหญ่ไม่ได้จะเข้าไปหาความรู้ครับ เขาเข้าไปเพราะว่าอยากที่จะส่องเฟสบ้าง หาอะไรสนุกๆดีบ้าง แบบนี้เป็นต้นครับ
แล้วอีกอย่างถึงแม้คุณจะเจาะจงได้หลายอย่างในโฆษณา Facebook แต่ก็ยังมีอะไรที่ target ไม่ได้(ตอนนี้)ครับ
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณขายยาแก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ คุณไม่สามารถจะเจาะจง keyword ได้ว่า “ซื้อยาประจำเดือนมาไม่ปกติ” ใช่ไหมล่ะครับ? สิ่งที่คุณทำได้ก็คือคุณต้องใช้กลยุทธ์หว่านแหให้มันกว้างๆและเจาะจงผู้หญิงตั้งแต่อายุเท่านี้ถึงเท่านี้แค่นั้นครับ
สรุปว่าอันไหนดีกว่ากัน?
เขียนมาซะเยอะเลยนะครับแต่จริงๆแล้วก็พูดไม่ได้อยู่ดีครับว่าอันไหนดีกว่ากัน มันขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจของคุณเป็นอะไรครับ
- ถ้าลูกค้าต้องเข้าใจสินค้าของคุณก่อนถึงอยากจะใช้งั้นก็ต้องใช้ Facebook Ads ครับ
- ถ้าคุณต้องการขาย software ให้กับบริษัทต่างๆหรือแม้แต่หน่วยงานรัฐ อันนี้ต้องเป็น Adwords
- ถ้าเป็นพวกร้านอาหารหรืออะไรที่ต้องใช้รูปเพื่อดึงความสนใจของกลุ่มลูกค้า อันนี้ก็ต้องเป็น Facebook Ads ครับ
พอจะเข้าใจใช่ไหมล่ะครับ?
ถ้าจะพูดว่าอันไหนดีกว่ากันคงจะพูดยากครับ แต่ที่พูดได้ก็คือ “มันแล้วแต่ธุรกิจของคุณ” ครับผม
ถ้ามีคำถามอะไร ถามผมได้เลยนะครับ ผมจะพยายามตอบทุกคำถามให้ดีที่สุดค๊าบผม
โพสต์ที่คนอ่านเยอะที่สุด:
- โฆษณา Facebook แค่ไลค์ละ ฿0.20 ทำยังไงมาดูกัน (Case Study)
- 25 เทคนิคเอาไป optimize โฆษณา Facebook ของคุณ (+ กำไร 10x)
- โฆษณา Facebook: 21 ไอเดียเจาะกลุ่มลูกค้าเด็ดๆ (ที่คุณอาจคิดไม่ถึง)
- 6 สาเหตุที่ทำให้ (โฆษณา Facebook) ไม่ได้กำไร (+วิธีแก้)
โชคดีและรวยๆครับ!
- วิธีทำ SEO ให้ keywords ติดอันดับสูงๆ บน Google - September 29, 2022
- วิธีใช้ Instagram Hashtags อย่างเซียน แบบละเอียด (ฉบับเต็ม) - September 22, 2022
- Multi-Channel Online Marketing: คืออะไร ใช้เอาชนะคู่แข่งได้ไหม? - September 15, 2022
Leave a Comment