วิธีใช้ Audience Insights หากลุ่มเป้าหมายทำโฆษณา (ขั้นเทพ)

ผมเคยพูดถึงเจ้าตัว Facebook Audience Insights Tool มาหลายรอบแล้วนะครับแต่ไม่เคยได้ลงลึก และอธิบายให้ฟังสักทีว่ามันต้องใช้ยังไง
โฆษณาในเฟสบุ๊คถึงแม้จะดูง่ายๆ และ Set up ง่ายแต่มันต้องใช้ฝีมือในการทำการบ้านพอสมควรเลยนะครับถึงจะทำให้โฆษณาประสบผลสำเร็จได้
เหตุผลที่หลายๆคนขาดทุนกับโฆษณาเฟสบุ๊คก็เพราะว่าทำการบ้านมาไม่ดีครับ คุณเป็นคนที่ติดตามบล็อกผมและอ่านบทความของผมตลอด ผมไม่อยากจะให้คุณต้องขาดทุนครับ
สำหรับคนที่ยังใหญ่อยู่และยังไม่รู้ว่าตัว Audience Insights Tool มันเป็นยังไง และใช้ยังไง เรามาดูกันก่อนเลยครับ
บทความนี้มีอะไรบ้าง
อุปกรณ์ตัวช่วย Audience Insights คืออะไร?
ถ้าใครที่เคยทำ Google Ads ก็คงจะรู้นะครับว่าคุณต้องทำ Keyword Research เพื่อจะหาว่า “Keyword” หรือ “คำ” ไหนที่จะทำให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณมากที่สุดใช่ไหมครับ?
เจ้าตัว Audience Insights ก็เหมือนกันครับ แทนที่เราจะใช้หา “คำ” เราใช้หา “ความสนใจ” ครับว่าความสนใจไหนกลุ่มเป้าหมายเป็นยังไง และเราควรจะเจาะจงความสนใจนั้นๆหรือเปล่า
หน้าตาเจ้าตัว Audience Insights เป็นแบบนี้ครับ

เรามาดูกันครับว่าจะใช้ยังไงให้เกิดผลที่ดีที่สุด และคุณใช้แล้วจะได้อะไรจากอุปกรณ์ตัวนี้บ้างครับ
5 อย่างที่คุณสามารถได้จาก Audience Insights ได้!
หลักๆเลยจะมีอยู่ 5 อย่างนะครับที่คุณจะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้จากการใช้ Audience Insights ได้ครับ แต่ในแต่ละอย่างก็จะมีข้อมูลย่อยๆให้คุณได้เรียนรู้อีกเยอะมากมายเลยครับ
ตอนนี้เราจะมามุ่งเป้าไปที่ 5 ตัวหลักๆก่อนนะครับแล้วผมจะอธิบายให้ฟังครับว่าแต่ละอันมันเป็นยังไง
- ข้อมูลประชากร (Demographics)

คุณสามารถใช้ Audience Insights Tool เพื่อจะดูว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณอายุเท่าไหร่บ้าง การศึกษาเป็นยังไง ใช้ชีวิตยังไง ชีวิตรักเป็นยังไง ทำงานตำแหน่งอะไร หรือแม้แต่ในบ้านมีสมาชิกกี่คนครับ
2. เพจไลค์ (Page Likes)
คุณสามารถดูได้ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณส่วนใหญ่กดไลค์เพจอะไรด้วยครับ ข้อมูลตัวนี้ดีเพราะว่าถ้าเพจไลค์ที่กลุ่มเป้าหมายของคุณกดไลค์ไม่ตรงกับแวดวงธุรกิจของคุณแสดงว่า “ความสนใจ” นั้นยังไม่ใช่ครับ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณจะเจาะจงคนที่ชอบทำธุรกิจส่วนตัว แล้วเพจไลค์ส่วนใหญ่ดันไปเกี่ยวกับฟิตเนส และกล้ามเนื้อ อันนี้ก็ไม่ไหวครับ
3. พื้นที่และภาษา (Location & Language)

บางที่คุณจะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายแต่คุณไม่แน่ใจว่าจังหวัดไหนกลุ่มเป้าหมายของคุณจะอยู่เยอะที่สุด คุณสามารถกดเข้ามาดูตรงนี้ได้เลยครับ จะมีข้อมูลกลุ่มเป้าหมายของคุณทั้งหมดให้คุณดูครับ
ผมเคยพูดไปครั้งหนึ่งครับว่าถ้ากลุ่มเป้าหมายของคุณจำนวนน้อยหรือเห็นหลายครั้งแล้วไม่คลิก ค่าโฆษณาของคุณจะพุ่งสูงขึ้นครับ เพราะฉะนั้นการที่รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่จังหวัดไหน และรู้ว่าควรจะเจาะจงจังหวัดไหนดี คุณจะได้เปรียบคู่แข่งของคุณมากครับ
4. พฤติกรรมซื้อของ (Purchase Behavior)

ถ้าคุณขายของออนไลน์หรือทำเว็บ eCommerce คงจะเข้าใจอยู่แล้วนะครับว่าการที่เจาะจงคนที่ชอบซื้อของออนไลน์มันสำคัญมากแค่ไหน
ใน Audience Insights คุณสามารถหาข้อมูลได้ความว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณมีพฤติกรรมยังไง และเป็นคนที่ชอบซื้อของออนไลน์หรือเปล่า
Facebook จะเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้หมดแล้วครับ คุณสามารถนำเอาไปใช้ได้เลย
5. รายได้ของกลุ่มเป้าหมาย (Income & Net Worth)

ทุกๆคนที่ทำโฆษณาต้องเข้าใจก่อนครับว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณเขามีกำลังทรัพท์ที่จะซื้อหรือเปล่าและมากน้อยแค่ไหน เพราะสมมุติว่าคุณขายเฟอร์นิเจอร์ราคา 50,000 บาทและไปเจาะจงคนที่มีรายได้ 15,000 ต่อเดือนแบบนี้ก็ไม่ไหวใช่ไหมครับ?
ผมไม่ได้บอกว่ากลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้จะไม่ซื้อนะครับ แต่จะเป็นจำนวนน้อยครับที่จะซื้อ พอจะเข้าใจใช่ไหมครับ?
อันนี้คือ 5 อย่างหลักๆครับที่เราจะสามารถหาได้ใน Audience Insights Tool แต่ไม่ว่าข้อมูลที่ได้มาคุณจะคิดว่ามันดียังไง ผมก็ยังไม่แนะนำให้ใช้อุปกรณ์ตัวช่วยตัวเดียวเพื่อจะให้คำตอบเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของคุณทั้งหมดครับ
คุณต้องแบ่งการทำวิจัยเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของคุณให้เป็น 2 แบบครับ
แบบที่ #1: การทำวิจัยเชิงประมาณ
การทำวิจัยเชิงประมาณคือการใช้ตัวเลขเป็นตัววัดครับว่ากลุ่มเป้าหมายนี้มีความน่าจะเป็นไปได้ที่จะซื้อหรือใช้บริการของคุณหรือเปล่า
การใช้ Audience Insights Tool จะเหมาะกับการทำวิจัยเชิงประมาณครับ เพราะว่าคุณจะได้ตัวเลขที่คุณต้องการมาเกือบทั้งหมดและข้อมูลได้มาโดยตรงจากเฟสบุ๊คเลย ไม่ต้องเดาเอาเอง
แบบที่ #2: การทำวิจัยเชิงคุณภาพ
การทำวิจัยเชิงคุณภาพคือการที่คุณต้องลองสังเกตดูครับว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณมีพฤติกรรมยังไง แล้วก็ลองเอามาวิเคราะห์ดูครับ
คุณจะหาข้อมูลพวกนี้ได้ใน Google Analytics ถ้าคุณพอจะมีข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่แล้วและอีกวิธีถึงคือการที่คุณไปค้นหาข้อมูลในเว็บพวก Pantip.com, Dekdee.com, Thaiseoboard.com หรือเว็บอะไรที่มีกลุ่มเป้าหมายของคุณให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าหรือธุรกิจคล้ายๆของคุณครับ
และอีกตัวช่วยหนึ่งที่ผมชอบใช้มากก็คือ Heat Map ครับ มันคืออุปกรณ์ที่ช่วยบอกคุณได้ว่าคนที่มาเว็บของคุณเขาชอบกดตรงไหนบ้างครับ

ตัวนี้จะช่วยทำให้คุณเข้าใจคนที่เข้ามาในเว็บหรือกลุ่มเป้าหมายของคุณได้มากขึ้นครับ
เหตุผลที่เราต้องทำวิจัยเยอะขนาดนี้ก็เพราะว่าการทำโฆษณาแต่ละที เราอยากจะใช้เงินให้น้อยที่สุดและได้ผลกำไรกลับมาเยอะที่สุดใช่ไหมล่ะครับ? ถ้าเราไม่ทำวิจัยเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของเราก่อนที่จะทำโฆษณาเลยก็เหมือนกับคุณยิงปืนโดยที่ไม่ไม่รู้ว่าเป้าอยู่ไหน มันจะยิงโดนได้ยังไงล่ะ จริงไหมครับ?
Audience Insights ใช้ยังไงให้ได้ผลที่สุด!
ผมพยายามจะทำให้แต่ละบทความมีความละเอียดให้เยอะที่สุดและเป็นประโยชน์มากที่สุดครับ ดังนั้นผมเลยอยากจะให้คุณได้เข้าใจว่าการใช้ Audience Insights Tool ใช้ยังไงให้ดีผลดีที่สุด
Step #1: เรามาดูกันก่อนครับว่าAudience Insights Tool จะหาเจอได้ยังไง ให้เข้าไปที่ Ad Manager ของคุณก่อนนะครับ แล้วก็กดคำว่า “Ad Manager” ข้างบนซ้ายตรงนี้เลยครับ
หลังจากนั้นก็จะเห็นคำว่า “Audience Insights”

เรามาที่ขั้นตอนต่อไปกันเลยครับ
Step #2: คุณจะถูกส่งมายังหน้านี้เลยครับ แล้วคุณจะเห็นว่ามีหน้าต่างแบบนี้โผล่ขึ้นมา ถ้าคุณยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ผมจะอธิบายให้ฟังทีละตัวครับ

Everyone on Facebook (ทุกๆคนที่อยู่ในเฟสบุ๊ค) — ตัวนี้หมายความว่าถ้าคุณใส่ Keyword “ความสนใจ” เข้าไป เฟสบุ๊คจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับทุกๆคนที่อยู่ในเฟสบุ๊คให้คุณครับ
นอกเสียจากคุณจะตั้งแค่ว่าคุณจะตั้งค่าให้เฟสบุ๊คเอาข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มคนเฉพาะจังหวัดหรือความสนใจเท่านั้นครับ
People connected to your page (คนที่เชื่อมโยงกับเพจของคุณ) — คนพวกนี้พูดง่ายๆเลยคือคนที่กดไลค์ คอมเม้นต์ แชร์ หรืออะไรก็แล้วแต่ในเพจของคุณครับ คนพวกนี้จะจัดเป็นคนที่ “เชื่อมโยงกับเพจ” ของคุณทั้งหมดครับ
ข้อมูลตรงจุดนี้จะมีประโยชน์ต่อคุณมากครับเพราะว่าคุณรู้แล้วว่าคนที่กดไลค์เพจของคุณเขาต้องสนใจธุรกิจหรือสินค้าของคุณส่วนหนึ่งแล้ว
A Custom Audience (คุณเลือกเอง) — คนกลุ่มนี้คือกลุ่มคนที่คุณมีข้อมูลของเขาอยู่แล้วครับ อาจจะได้มาจากการใช้ Facebook Pixel หรือ เบอร์โทรศัพท์ หรือ อีเมลหรืออะไรก็แล้วแต่ครับ
ในส่วนนี้คุณสามารถเอาข้อมูลส่วนนั้นอัพโหลดขึ้นไปในเฟสบุ๊คได้เลย แล้วเฟสบุ๊คจะเข้าไปหาข้อมูลที่คุณสามารถนำมาวิเคราะห์ได้เองเลยครับ
ยกตัวอย่างเช่นคุณมีร้านเสื้อผ้าและคุณมีเบอร์ลูกค้าของคุณอยู่แล้ว คุณก็อยากจะเข้ามาดูว่ากลุ่มลูกค้าของคุณมีพฤติกรรมยังไงในเฟสบุ๊ค คุณก็สามารถเอา List ของเบอร์โทรเหล่านั้นอัพโหลดขึ้นเฟสบุ๊คได้เลย และถ้าเบอร์โทรตรงกับเบอร์ที่สมัครเฟสบุ๊ค คุณก็จะได้ข้อมูลให้เห็นใน Audience Insights เลยครับ
ข้อควรจำ: การที่จะได้ข้อมูลจาก Custom Audience ที่สามารถใช้และเชื่อถือได้ คุณควรจะมีข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมายอย่างน้อย 500 คนนะครับ เพราะไม่อย่างนั้นมันจะน้อยเกินไปและข้อมูลที่ได้มาจะบิดเบือนครับ ตัวนี้ต้องระวังหน่อยนะครับ
ทิป 3 ตัวที่คุณต้องจำ ก่อนใช้ Audience Insights
ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ตัวช่วยอะไร เราต้องมีแผนหรือเทคนิคสักหน่อยครับ ไม่งั้นคุณจะไม่ได้ประโยชน์ 100% จากการใช้ Audience Insights ครับ
เรามาดูทิป 3 ตัวที่คุณต้องจำเอาไว้ก่อนที่จะเข้าไปลุยใน Audience Insights ครับผม เรามาเริ่มกันเลยครับ
- ทำให้การเจาะจงแคบที่สุดเท่าที่จะทำได้
- ค้นหา และสร้าง Customer persona
- ใช้เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับคู่แข่ง
จริงๆแล้วมันมีมากกว่านี้ แต่ผมคิดว่ามันไม่จำเป็นเพราะว่าข้อมูลในประเทศไทย เฟสบุ๊คยังไม่ได้เก็บละเอียดเหมือนในประเทศทางตะวันตกอย่าง อเมริกาและยุโรปครับ ผมก็เลยเลือกมาแค่ 3 ตัวนี้
เรามาดูกันทีละตัวเลยครับ
ทิปที่ #1: ทำให้การเจาะจงแคบที่สุดเท่าที่จะทำได้
อันนี้ผมไม่ได้หมายถึงให้มันแคบจนมีกลุ่มเป้าหมายแค่ 2–3 พันคนนะครับ อันนั้นก็ไม่ดีเพราะมันจะทำให้ค่าโฆษณาของคุณพุ่งสูงขึ้นครับ คุณควรจะทำให้ถูกวิธีและมีแผนครับ
อย่างที่ผมเคยพูดไปในหลายๆบทความครับว่าตัวเลขที่ดีต้องไม่ต่ำกว่า 80,000–100,000 คนครับ
ผมจะไม่ลงรายละเอียดมากในตรงจุดนี้นะครับ เพราะมันมีเยอะมากถ้าจะลงรายละเอียดผมคงต้องเขียนบทความขึ้นมาอีกตัวหนึ่งเพื่อจะอธิบายให้ฟังครับ ผมจะมาพูดแบบคร่าวๆนะครับว่าทำยังไงถึงจะทำให้การเจาะจงของคุณแคบและตรงจุดที่สุดครับ
หลังจากที่คุณลองรันโฆษณาไปแล้วสักพัก ผมอยากจะแนะนำให้คุณลองดูข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายใน Pixel และก็ทำ Lookalike Audience ครับ
เพราะว่ากลุ่มเป้าหมายที่สร้าง Lookalike Audience ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่คล้ายๆกับลูกค้าของคุณอยู่แล้วทำให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าคุณเจาะจงถูกคนแน่นอนครับ
แต่ไม่ว่า Lookalike Audience จะดียังไงนะครับ มันก็ยังสามารถกว้างไปได้อยู่ดีครับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมชอบทำก็คือเข้าไปในAudience Insights Tool แล้วเข้าไปปรับการเจาะจงนิดหน่อยครับ
สิ่งที่ผมชอบปรับมากที่สุดก็คือ “รายได้” ของกลุ่มเป้าหมายครับ

จากตอนแรกๆที่มีตัวเลขเยอะ ตอนนี้เหลืออยู่ประมาณนี้ครับ ทำให้ผมเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของผมมากขึ้นและสามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้นครับ
ผมไปอ่านผลทดลองของเว็บ Klientboost ทำมาเกี่ยวกับการทำให้ Lookalike Audience แคบลงโดยการใช้ “รายได้” เป็นตัวตั้งครับ
ผลออกก่อนหน้าเป็นแบบนี้ครับ

แล้วหลังจากรันโฆษณาไปสักพัก ผลออกมาเป็นแบบนี้ครับ

จะเห็นนะครับว่าราคาโฆษณาถูกลงมาเยอะมากและ Lead ที่เขาได้มาก็มีคุณภาพมากขึ้นด้วย
ผลออกมาได้แบบนี้เพราะว่าทีม Klientboost ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายก่อนที่จะสร้างโฆษณาตัวนี้ขึ้นมาครับทำให้เจาะกลุ่มลูกค้าได้ถูกต้อง และโฆษณาราคาประหยัดครับ
ทิปที่ #2: สร้าง Customer Persona จาก Audience Insights
สำหรับนักการตลาดหรือคนทำโฆษณาเป็นประจำอย่างคุณและผมแล้ว การที่เรารู้ว่ากลุ่มเป้าหมายเราคือใครและเขาชอบหรือไม่ชอบอะไรคือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราทำโฆษณาได้ประสบผลสำเร็จครับ
การทำ Customer persona โดยการใช้ Audience Insights Tool ง่ายมากครับ เพราะว่า Facebook มีข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายของคุณหมดแล้วที่คุณต้องทำก็แค่ใส่ Keyword เข้าไปให้ถูกเท่านั้นเองครับ
คุณต้องเข้าใจนะครับว่าข้อมูลที่ Facebook ได้มาทั้งหมดไม่ใช่ข้อมูลของ Facebook อย่างเดียวนะครับเพราะว่าเฟสบุ๊คใช้ข้อมูลของเว็บอื่นๆด้วยครับ เพราะฉะนั้นข้อมูลอาจจะไม่ตรง 100% แต่ส่วนใหญ่ก็ใช้ได้ปกติไม่มีปัญหาครับ

คุณจะเห็นนะครับว่าคุณสามารถได้ข้อมูลว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณมีการใช้ชีวิตแบบไหนบ้าง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำ Customer persona ครับ
ยกตัวอย่างเช่น “Family Established” คือ “การมีครอบครัวแล้ว” เป็นข้อมูลที่น่าสนใจครับเพราะว่าคนที่มีครอบครัวแล้วจะมีการตัดสินใจซื้อหรือทำอะไรไม่เหมือนกับคนที่ยังโสดอยู่ครับ
ถ้าคุณเลื่อนลงมาอีกหน่อย คุณก็จะเห็น “หน้าที่การงาน” หรือ “Job Title” ครับ

อันนี้ก็จะเป็นการศึกษา และสถานะภาพครับ

ถ้าคุณลองกดๆดู คุณจะเห็นครับว่าAudience Insights Tool ตัวเดียว จะช่วยคุณทำ Customer persona ได้เยอะมากเลยครับ
ทิปที่ #3: ใช้วิจัยกลุ่มเป้าหมายของคู่แข่ง
ตัวนี้เสียอย่างก็คือถ้าคู่แข่งของคุณไม่ได้มีฐานลูกค้าใหญ่ขนาดนั้น เฟสบุ๊คจะไม่แสดงผลครับ แต่ถ้ากลุ่มเป้าหมายของคุณใหญ่พอแล้ว คุณจะสามารถใช้ Audience Insights เพื่อจะวิจัยและวิเคราะห์เกี่ยวกับกลุ่มลูกค้าของคู่แข่งคุณได้ครับ
เรามาดูกันเลยดีกว่าครับว่าต้องทำยังไง
ขั้นตอนที่ #1: คุณเข้าไปใน Audience Insights แล้วให้คลิกตรง “Everyone on Facebook” ครับ เพื่อที่จะเริ่มหาข้อมูล

ขั้นตอนที่ #2: ให้ใส่ว่าจะเลือกประเทศเป้าหมายอะไรที่ “Location” ครับ หลังจากนั้นก็ใส่ชื่อของคู่แข่งของคุณเข้าไปใน “Interest” ได้เลยครับ
อย่างที่ผมบอกไปครับว่าถ้าคู่แข่งของคุณยังไม่ใหญ่พอก็จะมีโอกาสที่ชื่อของคู่แข่งคุณจะไม่โผล่ขึ้นมาครับ

แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ
จากนั้นเรามาดูกันครับว่าในแต่ละตัว ข้อมูลมันมีความหมายยังไงบ้าง

เราจะเห็นครับว่าคู่แข่ง (ตัวอย่าง) ของผมส่วนใหญ่เขามีแฟนๆที่มีอายุตั้งแต่ 18–34 ปี และเป็นผู้ชายมากกว่าในช่วงอายุ 18–24 และผู้หญิงเยอะกว่าในช่วงอายุ 25–34 ครับ

และเพจไลค์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเกี่ยวกับศิลปิน และความบันเทิงเหมือนกันครับ เรามาดูที่ Location กันเลยดีกว่าครับว่าส่วนใหญ่แฟนๆเขาอยู่จังหวัดไหนกัน

จะเห็นครับว่าส่วนใหญ่แล้ว กลุ่มเป้าหมายจะอยู่ที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร แล้วเรามาดูข้อมูล (Activity)ตัวต่อไปกันครับว่าจะเป็นยังไง

ในแท็ป Activity เราจะเห็นครับว่าแฟนๆของคู่แข่งของผม ภายใน 30 วันที่ผ่านมาได้กดไลค์เพจอยู่โดยเฉลี่ยแล้ว 7 ไลค์, คอมเม้น 28 ครั้ง, ไลค์โพสอยู่ 19 ครั้ง, แชร์โพส 7 ครั้ง และกดคลิกโฆษณาถึง 44 ครั้ง และส่วนใหญ่ใช้ Android กับ iPhone ครับ
แค่นี้ผมก็ได้ข้อมูลเกี่ยวกับแฟนๆของคู่แข่งผมมาเยอะมากแล้วครับ ลองเอาไปทำดูนะครับ
โพสที่มีคนอ่านเยอะที่สุด:
- จาก 2 ถึง 4,227 ไลค์ (ละ ฿0.11) ทำยังไงมาดูกัน (โฆษณา Facebook)
- 87 สถิติที่คุณต้องรู้ (ถ้าทำโฆษณาใน Facebook)
- 43 ตัวอย่างโฆษณา Facebook ที่ (เจ๋งจนต้องร้องขอชีวิต) สำหรับปี 2018
- โฆษณา Facebook: 21 ไอเดียเจาะกลุ่มลูกค้าเด็ดๆ (ที่คุณอาจคิดไม่ถึง)
- Facebook Ads vs. Adwords อันไหนเหมาะกับธุรกิจคุณมากกว่ากัน?
สรุปทั้งหมดเกี่ยวกับ Audience Insights Tool
Audience Insights Tool ก็คือเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยทำให้คุณเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณมากขึ้นครับ คุณสามารถใช้ได้หลายอย่างขึ้นอยู่กับการพลิกแพลงเอาครับ
ส่วนตัวผมแล้ว ก่อนที่ผมจะทำโฆษณาให้กับลูกค้า ผมใช้เวลาอย่างน้อย 60% ของทั้งหมดมาเพื่อทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่ผมจะเจาะจงก่อนครับ
เพราะอย่างที่ผมบอกว่าถ้าคุณสามารถเจาะจงคนได้ถูกแล้ว คุณจะได้โฆษณาที่ทำผลลัพท์กับคุณได้มากขึ้นและโฆษณาของคุณจะมีราคาถูกลงด้วยครับ
ตาคุณไปลองทำแล้ว!
สำหรับการทำโฆษณาทุกๆอย่างนะครับ ถ้าอ่านอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมอยากจะให้คุณนำเอาความรู้ที่ได้จากบทความนี้เอาไปลองทำดูนะครับ ผิดถูกยังไงคุณจะได้เรียนรู้ไปด้วยครับ
ถ้าเกิดมีคำถามยังไง คุณสามารถคอมเม้นใต้บทความนี้เพื่อถามผมได้ตลอดเลยนะครับ
สำหรับวันนี้ขอให้โชคดี และรวยๆขึ้นเรื่อยๆครับ!
- วิธีทำ SEO ให้ keywords ติดอันดับสูงๆ บน Google - September 29, 2022
- วิธีใช้ Instagram Hashtags อย่างเซียน แบบละเอียด (ฉบับเต็ม) - September 22, 2022
- Multi-Channel Online Marketing: คืออะไร ใช้เอาชนะคู่แข่งได้ไหม? - September 15, 2022
Leave a Comment