Facebook Pixel – เข้าใจทุกอย่างในบทความเดียว!

ตั้งแต่ผมซื้อโฆษณาออนไลน์มาตั้งแต่ตอนแรกๆเลย 10 ปีก่อน ผมยังไม่เคยเห็นมีตัวช่วยอะไรที่จะทำให้ดึงลูกค้าเข้ามาซื้อของได้เท่ากับการทำ Remarketing เลยครับ
การทำ Remarketing หัวใจของมันก็คือการที่จะตื้อลูกค้า “ที่สนใจ” สินค้าของคุณอยู่แล้วให้เข้ามาซื้อของจากคุณให้ได้ครับ การทำ Remarketing จะขาดตัวสำคัญตัวหนึ่งไม่ได้เลยครับ นั้นก็คือเจ้าตัว Pixel เนี้ยแหละครับ
สำหรับคนที่ยังไม่มั่นใจว่า Remarketing คืออะไร ผมแนะนำให้คลิกตรงนี้เข้าไปอ่านได้เลยครับ : Facebook Remarketing ตามตื้อลูกค้า (แบบถูกกฎหมาย)
บทความนี้มีอะไรบ้าง
สิ่งที่เราจะมาเรียนรู้กันในบทความนี้
– Facebook Pixel คืออะไร
– เจ้าตัว Pixel นี้สำคัญหรือเปล่า
– กลไกลของ Pixel มันเป็นยังไง
– การลง Facebook Pixel ทำยังไง (มีรูปให้ทำตามได้เลย)
– เข้าไปดูการวัดผลลัพท์จาก Pixel ได้ที่ไหน
– สรุปทั้งหมด
เราเข้าใจตรงกันแล้วว่าเราจะพูดถึงอะไรกันบ้าง เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
Facebook Pixel คืออะไร?
พูดง่ายๆเลย เจ้าตัว Facebook Pixel ก็คือโค้ด (Code) ที่เฟสบุ๊คให้คุณเอาไปใส่ในเว็บของคุณเพื่อที่เฟสบุ๊คจะสามารถติดตามและบันทึกข้อมูลพฤติกรรม หรือกิจกรรมของคนที่เข้ามาในเว็บของคุณครับ
ถ้าคนที่มีเว็บอยู่แล้ว ก็คงจะคุ้นกับ Google Analytics นะครับ เพราะมันทำงานแทบจะเหมือนกับ Google Analytics เลยครับ
หน้าตาโค้ด Facebook Pixel เป็นแบบนี้ครับ (ถ้าไม่เข้าใจ อ่านข้ามเลยครับ 555+)
สิ่งที่คุณต้องจำก็คือคุณต้องใส่ Facebook Pixel ลงไปก่อนที่จะรันโฆษณานะครับ เพราะไม่อย่างงั้นคุณจะพลาดโอกาสที่จะเก็บข้อมูลกลุ่มลูกค้าของคุณได้ครับ และทุกๆข้อมูลที่เกี่ยวกับกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของคุณมีคุณค่ามากครับ
3 สิ่งที่ต้องเข้าใจเกี่ยวกับ Facebook Pixel ก่อนที่จะทำโฆษณา
ก่อนที่เราจะไปขั้นตอนต่อไปกัน เรามาเข้าใจถึงสิ่งที่คุณต้องรู้และทำความเข้าใจก่อนที่จะสร้างโฆษณา เพราะว่าการทำโฆษณาสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ “การวัดผล” ครับ และ Facebook Pixel ก็จะให้คำตอบคุณทุกๆอย่าง
1. Facebook Pixel สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจ – ถ้าคุณมีความรู้เรื่องการเขียนโค้ดนิดหน่อย พอแค่รู้ว่าอันไหนแปลว่าอะไร คุณสามารถปรับเปลี่ยน Pixel ให้วัดผลอะไรให้คุณก็ได้ครับ เช่น ถ้าคุณมีร้านขายของออนไลน์ และอยากจะวัดผลคนที่กดค้นหาคำว่า “เสื้อยืด” คุณก็สามารถใส่โค้ดลงไปได้เลยครับ และ Facebook จะบันทึกข้อมูลไว้เอง (ดูตัวอย่างข้างล่างเลยครับ)

2. คุณสามารถดูผลลัพท์จากการวัดผลของ Pixel ได้ – ในหลายๆปีที่ผ่านมา Facebook ได้เห็นปัญหาครับว่าคนทำโฆษณาไม่สามารถเห็นผลลัพท์ที่ได้มาจาก Pixel ได้ บริษัท Facebook ก็เลยสร้างอุปกรณ์ตัวช่วยที่มีความคล้ายกับ Google Analytics ขึ้นมาชื่อว่า Facebook Analytics ครับ ผมจะพูดถึง Facebook Analytics ในส่วนถัดไปของบทความนี้ครับ
3. คุณสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ลึกขึ้นเยอะ – เราก็พอจะเข้าใจกันอยู่แล้วนะครับว่าการเจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งที่จะขีดเส้นว่าโฆษณาของคุณจะอยู่หรือจะไป ถ้าคุณมีข้อมูลที่เก็บมาจาก Pixel เยอะ คุณจะสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ลึกขึ้นเยอะกว่าการเจาะกลุ่มเป้าหมายทั่วไปมากครับ เหตุผลก็คือว่าคุณจะมีข้อมูลที่ช่วยให้เฟสบุ๊คเข้าใจว่าควรจะเจาะจงกลุ่มคนแบบไหนดีครับ
ในเมื่อเราเข้าใจตรงกันแล้ว เรามาดูตัวต่อไปกันเลยครับ
วิธีสร้างและลง Facebook Pixel ด้วยตัวเอง
สำหรับคนที่ยังไม่เป็น ผมจะมาสอนการสร้างและลง Pixel ด้วยตัวเองครับผม มันง่ายๆครับ เพราะผมเคยบอกไปแล้วว่า Facebook ไม่กล้าทำออกมายากหรอกครับ ไม่งั้นไม่มีคนใช้กันพอดี 555+
Facebook Pixel หาได้ที่ไหน?
Step #1: เข้าไปที่ Ad Manager ก่อนเลยครับ แล้วจะออกมาหน้าตาแบบนี้
Step #2: หลังจากกดแล้วก็จะเจอหน้าต่างแบบนี้ครับ แล้วก็กดตรงนี้ต่อเลย
Step #3: สำหรับคนที่มี Pixel อยู่แล้ว จะออกมาเป็นหน้าตาแบบนี้ครับ แต่ถ้ายังไม่มี Pixel ก็มันก็จะมีหน้าตาออกมาบอกให้ “สร้าง Pixel” ครับ
วิธีการลง Facebook Pixel ในเว็บของคุณด้วยตัวเอง
เรามาถึงวิธีที่รอคอยกันมานานแล้วครับ เรามาดูกันเลยดีกว่าครับว่าเราควรจะทำยังไงถึงจะลง Facebook Pixel ในเว็บของคุณและให้คุณได้เริ่มเก็บข้อมูลกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของคุณสักที
เริ่มกันเลยครับ
Step #1: หลังจากเข้ามาในหน้า Pixel แล้วอย่างที่บอกไปข้างบนจะเจอหน้าต่างแบบนี้เลยครับ แล้วก็คลิกตรงที่ผมชี้ไว้เลยครับ
Step #2: Facebook จะถามว่าคุณจะลงอีกหรือว่าจะส่งไปให้คนพัฒนาเว็บคุณทำให้ สำหรับตอนนี้ให้เลือกอันที่สองครับ ลงเอง หรือ Manual
Step #3: เลื่อนลงมานิดหน่อยแล้วจะเจอตัวนี้เลยครับ Copy โค้ดตัวนี้ไว้เลยครับ
Step #4: สำหรับคนที่เว็บใช้ html หรืออย่างอื่น สามารถเอาตัว Code นี้ไปลงใน “Header” ได้เลยนะครับ
สำหรับคนที่ใช้ WordPress มาดูทางนี้กันครับ เข้าไป Copy เลขตัวนี้แทนครับ ไม่ต้องไปยุ่งยากกับ Code
จากนั้นก็หา Plugin ฟรีที่จะสามารถช่วยคุณใส่เลขได้ง่ายๆครับ ใช้คำว่า “Facebook Pixel” แล้วมันก็จะขึ้นมาเยอะแยะไปหมดเลยครับ เลือกตามสบายเลย
หลังจากนั้นก็เอาเลขมาใส่ตรงนี้แล้วก็กด “Save changes” หรือเซฟข้อมูล ก็เป็นอันที่เรียบร้อยแล้วครับ
Step #5: จากนั้นก็รอสักพักครับ แล้วถ้าทุกๆอย่างเสร็จแล้ว มันก็จะออกมาเป็นหน้าตาแบบนี้เลยครับ
แค่นี้ก็เป็นอันที่เรียบร้อยครับสำหรับการสร้างและลง Facebook Pixel มันไม่ได้ยากเลยใช่ไหมครับ?
วิธีเช็คว่าลง Facebook Pixel ถูกต้องและเรียบร้อย
หลังจากลง Facebook Pixel ไปแล้ว คุณต้องเช็คก่อนนะครับว่ามันทำงานได้ผลจริงหรือเปล่า เพราะมันมีหลายเหตุการมากครับที่ผมลงไปแล้วแต่มันไม่ทำงาน ต้องกลับไปแก้ให้ปวดหัวและก็เสียทั้งเวลาและเงินโฆษณาไปแล้วและไม่ได้ผลกลับมาเลย อย่าเป็นเหมือนผมนะครับ ฮ่าๆ
สำหรับคนใช้ Google Chrome ผมแนะนำให้ใช้ตัวช่วยที่ชื่อว่า “Facebook Pixel Helper” สร้างขึ้นโดยบริษัท Facebook เลยครับ

หลังจากลงไปแล้วคุณสามารถเช็คได้ว่า Pixel ทำงานหรือเปล่าครับ หน้าตาจะออกมาเป็นแบบนี้เลยครับ ลองเล่นดูนะครับ

สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ Google Chrome หรือลง Extension ที่ผมให้ดูข้างบนไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ เรามาดูกันครับว่าคุณจะสามารถเช็คได้ยังไงว่า Pixel ของคุณทำงานแล้ว
คุณเข้าไปใน Ads Manager ก่อนเลยครับ แล้วก็คลิกตรงลูกศรนี้เลยครับ จากนั้นก็คลิกคำว่า “Pixel” ครับ

หลังจากนั้นคุณก็จะเห็นหน้าต่างแบบนี้ให้คุณสามารถดูได้เลยครับว่า Pixel ของคุณทำงานหรือเปล่า ถ้าไม่ทำงานมันจะขึ้น “สีแดง” มาครับ แต่ถ้าทำงานแล้วมันจะเป็นอย่างที่เห็นเลยครับ

วิธีการปรับเปลี่ยน (Optimize) ตัว Pixel ให้ดีขึ้น
จริงๆแล้วคุณไม่ต้องทำอะไรเลยครับเพราะว่า Pixel ตัวที่คุณลงไปในเว็บ บริษัท Facebook เขาทำมาดีอยู่แล้วและทุกๆครั้งที่คุณสร้างโฆษณาใหม่ คุณไม่จำเป็นต้องสร้าง Pixel ใหม่เหมือนเจ้าตัว Facebook Pixel รุ่นก่อน (ตอนนี้เลิกใช้ไปแล้ว)
แต่สิ่งที่คุณต้องทำก็คือต้องตั้งค่าไปครับว่าคุณอยากจะให้ Facebook เก็บข้อมูลส่วนไหนมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น จำนวนสินค้าที่ขายได้, คนเข้าเว็บที่คลิกอะไรสักอย่าง หรือไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ครับ ต้องตั้งว่าจุดมุ่งหมายของโฆษณา (Conversion goal) ของคุณคืออะไร
มาดูตัวต่อไปกันเลยครับ
ลง Facebook Pixel จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาของคุณยังไง?
อย่างที่ผมบอกไปตอนแรกครับว่าหัวใจสำคัญของการลง Pixel ก็คือการที่ทำให้คุณช่วยเข้าใจกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของคุณมากขึ้น และคุณสามารถนำเอาข้อมูลเหล่านั้นไปใช้โฆษณาให้แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ
คุณสามารถใช้ข้อมูลที่ได้จาก Pixel เพื่อวัดผล A/B testing ของคุณได้ด้วยครับ เช่น คนที่เข้ามาจากโพสนี้เขาซื้อของจากคุณหรือจากโพสนี้ได้ผลดีกว่าครับ
ตัวอย่างข้างล่างนี้เขาได้ทำ Remarketing ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ดูวิดีโอจากสัมมาออนไลน์ (Webinar) ไปมากกว่า 75% เท่านั้น ถ้าน้อยกว่านั้น เขาคงคิดว่าไม่มีความหมายครับ เหมือนแค่คนที่เข้ามาดูแว๊บๆแล้วออกไป
เขาเลยใช้ข้อมูลที่ได้จาก Pixel เพื่อไปทำ Remarketing ตรงนี้ได้ครับ

วิธีเข้าไปดูผล “การวัดผล” จาก Pixel
ผมได้เกริ่นตัวนี้ไปนิดหน่อยข้างบนว่าคุณสามารถเข้าไปดูได้ว่า ผลลัพท์ที่ Pixel ได้บันทึกเอาไว้เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายหรือคนที่เข้ามาในเว็บของคุณเป็นยังไง
ตอนนี้ผมจะมาแชร์ให้อ่านครับว่าต้องทำยังไงถึงจะเข้าไปดูได้ เมื่อไม่นานที่ผ่านมา Facebook ได้ออกอุปกรณ์ตัวช่วยตัวใหม่ขึ้นมาเรียกว่า Facebook Analytics ครับ
ถ้าหลายๆคนคุ้นกับ Google Analytics มันทำงานเกือบจะเหมือนกันเลยครับแต่ 2 ตัวนี้ไม่ใช่คู่แข่งกันแน่นอน เพราะข้อมูลที่แต่ละตัวบันทึกไม่เหมือนกันครับ
เรามาดูกันเลยดีกว่าครับว่าเจ้าตัว Facebook Analytics มันหน้าตาเป็นยังไง

วิธีเข้าไปดูก็ไม่ยากเลยครับ เพียงแค่คุณกดเข้าไปที่ Facebook Analytics แล้วถ้าคุณมี Pixel หลายตัว Facebook Analytics จะให้คุณเลือกว่าคุณอยากจะดูข้อมูลจากตัวไหนครับ

หลังจากคลิกไปแล้ว คุณก็จะเห็นข้อมูลเหมือนที่ผมให้ดูตอนแรกเลยครับ ผมจะยังไม่ลงรายละเอียดอะไรมากเกี่ยวกับ Facebook Analytics ในบทความนี้นะครับเพราะมันมีเยอะเหลือเกิน
ถ้ามีคนอยากจะเข้าใจเกี่ยวกับ Facebook Analytics เยอะจริงๆ ผมจะเขียนบทความอีกบทความมาเพื่ออธิบายการใช้งานและทำยังไงให้คุณได้ประโยชน์จากมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ
สรุปข้อมูลเกี่ยวกับ Facebook Pixel
ผมย้ำหลายรอบมากเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ผมพูดบรรยาย หรือให้คำปรึกษากับลูกค้าครับว่า Facebook Pixel มันมีความสำคัญ และใช้ประโยชน์ได้มากถ้าคุณใช้เป็น เพราะว่าเจ้าตัว Pixel จะบันทึกข้อมูลของคนที่คุณอยากจะทำความเข้าใจพฤติกรรม และทำให้คุณสามารถเจาะจงคนกลุ่มนั้นได้ตรงมากขึ้นครับ
ถึงแม้คุณยังไม่ได้อยากจะโฆษณาอะไรตอนนี้ แต่ผมก็คงยังจะแนะนำให้คุณติดตั้ง Facebook Pixel เอาไว้ก่อนครับ อย่างที่ผมบอกแหละครับว่ามันก็เหมือน Google Analytics ใส่เอาไว้แล้วเราจะกลับมาดูข้อมูลเมื่อไหร่ก็ได้ มันไม่หายไปไหนครับ ไม่ใส่จะมีผลเสียมากกว่า
โพสที่มีคนอ่านเยอะที่สุด:
- จาก 2 ถึง 4,227 ไลค์ (ละ ฿0.11) ทำยังไงมาดูกัน (โฆษณา Facebook)
- (เนื้อหาปี 2022) วิธีทำโฆษณา Facebook วันละ 99 บาท แต่ได้ผลจริง (เหมาะสำหรับคนเริ่มใหม่)
- วิธีทำโฆษณา Instagram & สร้างกลุ่มเป้าหมายขั้นสูง (เนื้อหา 2022 อัพเดท)
- วิธีทำ SEO ให้ขึ้นหน้า 1 ของ Google ขั้นเทพ (สำหรับมือใหม่)
- โฆษณา Facebook: 21 ไอเดียเจาะกลุ่มลูกค้าเด็ดๆ (ที่คุณอาจคิดไม่ถึง)
- Facebook Ads vs. Adwords อันไหนเหมาะกับธุรกิจคุณมากกว่ากัน?
ตาคุณเอาไปลองแล้ว!
คนเราไม่ว่าจะอ่านเยอะยังไงถ้าไม่เอาไปลองทำเองมันก็ไม่เก่งสักทีนะครับ ถ้าคุณอยากจะทำโฆษณาเฟสบุ๊คให้เก่งและดี ผมแนะนำให้คุณลองเล่นกับ Facebook Pixel ดูครับ
ถ้าคุณยังไม่ได้ลง หรือลงไม่เป็นผมก็อยากจะให้คุณลองเอาคำแนะนำที่ผมแชร์ในบทความนี้ไปปรับใช้ดูนะครับ ลองดูว่าจะเป็นยังไง
แต่สำหรับคนที่ลงไปแล้ว ผมก็อยากจะให้ลองไปดูข้อมูลที่ Pixel บันทึกไว้ใน Facebook Analytics ดูครับ เพราะมีข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของคุณเยอะมาก
โอเคนะครับ? คุณต้องเอาไปลองดู
สำหรับวันนี้ขอให้โชคดีและรวยๆ ขึ้นเรื่อยๆครับ!

- วิธีทำ SEO ให้ keywords ติดอันดับสูงๆ บน Google - September 29, 2022
- วิธีใช้ Instagram Hashtags อย่างเซียน แบบละเอียด (ฉบับเต็ม) - September 22, 2022
- Multi-Channel Online Marketing: คืออะไร ใช้เอาชนะคู่แข่งได้ไหม? - September 15, 2022
Leave a Comment