(Facebook Page) แฟนเพจหมดยุคแล้ว! คุณต้องแก้ไขและปรับตัวยังไง

ปกติแล้ว ผมไม่ค่อยชอบพูดถึงปัญหาพวกอัพเดทอะไรเท่าไหร่ครับ เพราะว่าใครๆเขาก็พูดถึงกัน เปิดใน Google แปปเดียวก็เห็นแล้ว จริงไหมครับ?
แต่ปัญหาก็คือถึงแม้จะมีคนเขาเขียน หรือทำวิดีโอเกี่ยวกับเรื่องนี้มาจริงๆ ผมก็ยังเห็นว่าเขายังอธิบาย และให้คำแนะนำเพื่อให้เพื่อนๆไปปรับเปลี่ยนได้ดีเท่าที่ควร
ผมเลยคิดว่า ผมอยากจะมาเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยครับ เพราะว่าส่วนตัวแล้ว ผมช่วยแก้ปัญหานี้ให้กับลูกค้าผมเกือบจะทุกวันอยู่แล้วครับ
บทความนี้มีอะไรบ้าง
ทำไม Facebook ไม่อยากให้เห็นโพสเยอะๆ
ตามคำพูดจากปากของพี่มาร์คก็คือเขาอยากจะให้คนเห็นโพสของเพื่อน และคนในกลุ่มมากกว่าที่เห็นจากเพจครับ

อันนี้มันก็ฟังดูแล้วน่าสนใจนะครับ เพราะเราต้องเข้าใจว่า Facebook จริงๆแล้ว เขาก็คือบริษัทโฆษณานั่นแหละครับ เขาไม่ใช่มูลนิธิเพื่อการกุศลที่เขาจะมาให้เราใช้เว็บเขาได้ฟรีๆ จริงไหมครับ?
เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องหาวิธีที่จะให้เขาจ่ายตังค์เขาให้ได้แหละครับ
คุณต้องเข้าใจนะครับว่า Facebook จะทำเงินได้ก็ต่อเมื่อ คนเห็นโฆษณาเยอะๆใช่ไหมครับ? เพราะฉะนั้นสิ่งที่ Facebook ต้องทำก็คือการที่ทำให้คนใช้ Facebook อยู่นานๆครับ

โดยทั่วไปแล้ว คนที่ใช้ Facebook จะอยู่ประมาณ 50+ นาทีต่อวันครับ แต่นี้เป็นข้อมูลของในประเทศอเมริกานะครับ ถ้าเป็นประเทศไทย ผมคิดว่าน่าจะสูงกว่านี้ครับ เพราะว่าประเทศไทยเรา มีเล่นกันหลักๆแค่ Facebook กับ Instagram ครับ
ทีมงาน Facebook เขารู้ครับว่าการที่เขาให้คนเห็นโพสจากเพจของคุณเยอะๆ มันไม่ได้ทำให้เขามีรายได้เพิ่มขึ้นเลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาต้องทำก็คือการลดการมองเห็นครับ (ลด Reach นั่นเอง)

เราจะเห็นครับว่าในแต่ละปี มันลดลงมาเรื่อยๆ มันเป็นแผนของเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ เพราะว่าถ้าจู่ๆ เขาเกิดลดการเข้าถึงเลยทีเดียว คนก็อาจจะเลิกทำเพจขึ้นมาเลยก็ได้ จริงไหมครับ?
สิ่งที่เขาทำได้ก็คือการที่ทำให้คนเรา “ค่อยๆปรับตัว” เข้ากับการเข้าถึงที่น้อยลงครับ ถ้าคุณอยากจะเข้าถึงแฟนเพจคุณได้เยอะๆ คุณต้องทำยังไงครับ? ใช่ครับ ต้องจ่ายตังค์โฆษณาให้กับ Facebook อีกทีครับ
ทีมงาน Facebook ก็เลยเน้นให้คนเข้ามาสร้าง “กลุ่ม” กันมากขึ้นครับ เพราะว่าตอนนี้ Facebook ไม่สามารถจะอยู่ในสถานะเดิมๆได้นานๆ อีกต่อไปครับ
เพราะทุกๆวันนี้ เขามีคู่แข่งเกิดขึ้นมาเยอะครับ อย่างในประเทศไทยก็อย่างแอพที่ชื่อว่า Meetup ครับ

เขาเป็นแอพที่ให้คนสร้างกลุ่มเพื่อที่จะให้คนที่อยู่ใกล้ๆกัน ออกมาพบเจอกัน ได้คุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเป็นเพื่อนกันครับ
แอพพวกนี้ ตอนนี้มันยังไม่ดังขนาดนั้นในประเทศไทยครับ แต่ในประเทศตะวันตก ตอนนี้เขาใช้กันแพร่หลายเรียบร้อยแล้วครับ
เฟสบุ๊ครู้ว่าถ้าเขาไม่ทำอะไรสักอย่าง สักวันหนึ่ง เขาก็จะแพ้ให้กับแอพที่เล็กกว่าพวกนี้ไปง่ายๆครับ
เพราะฉะนั้น Facebook เลยต้องบังคับให้คนทำกลุ่มมากขึ้นครับ แทนที่จะทำแค่เพจมาเท่านั้น เขาสามารถทำให้คนปรับตัวตามที่เขาต้องการด้วยการบังคับแบบอ้อมๆ แบบนี้ครับ
วิธีปรับตัวเพื่อให้ไม่ตกเป็นเหยื่อ
ผมใช้คำว่าเหยื่อมันอาจจะดูแรงไปหน่อยนะครับ แต่มันคือความจริงครับ เรื่องของเทคโนโลยี อะไรมันก็เปลี่ยนไปเร็วมากครับ เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่ปรับตัวไปพร้อมๆกับมัน คุณกลายเป็นเหยื่อแน่นอนครับ
อย่างที่ผมบอกครับว่าจากประสบการณ์ของผมแล้ว ผมอยู่กับมันตลอดเวลาครับ ผมรู้ว่าควรจะแก้ยังไงและผมพอที่จะเดาได้ว่า Facebook เขาจะไปทางไหนต่อไปครับ
เฟสบุ๊คอยากจะให้หน้าเพจ คือหน้าเว็บของคุณ
จากที่ผ่านมา เราจะเห็นนะครับว่า Facebook พยายามไม่อยากที่จะให้คุณมีหน้าเว็บไซต์แล้วครับ เพราะว่าเขาอยากจะให้คนอยู่ใน Platform เขาให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ครับ
เฟสบุ๊คอยากจะให้คนที่เขามาในเพจของคุณ เขาได้ซื้อของ สั่งข้าว คุยกับคุณผ่านหน้าเพจเลย ไม่ต้องคลิกเข้าเว็บของคุณเพื่อไปคุยอีกต่อไปครับ

ทำไมผมถึงบอกตรงนี้ให้กับคุณครับ? เพราะว่าเฟสบุ๊คอยากจะให้มันเป็นแบบนี้จริงไหมครับ? ถ้าคุณทำอย่างที่เขาต้องการ เพจคุณจะเป็นที่เห็นได้ง่ายขึ้นครับ
อารมณ์ประมาณ Google แหละครับ ถ้าคุณทำในสิ่งที่เขาต้องการ (มีคอนเทนต์ มีลิงค์มาหาเว็บ อะไรประมาณนี้) เขาก็จะให้คุณขึ้นอันดับแรกๆ ของคำค้นหาครับ
เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากที่จะขายของผ่าน Facebook ได้ดีๆ คุณต้องพยายามทำให้หน้าเพจของคุณเป็นหน้าเว็บให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ เฟสบุ๊คเขาจะให้คะแนนคุณดีเองครับ
ผมจะยกตัวอย่างให้ดูอีกหน่อยนะครับว่าเฟสบุ๊คไม่อยากจะให้เราออกจาก Platform เขาจริงๆครับ
จำโฆษณาแบบ Canvas ได้ใช่ไหมครับ? นั่นแหละครับคืออีกตัวอย่างหนึ่ง จริงๆการทำโฆษณา หลายๆคนอาจจะส่งคนที่คลิกโฆษณาไปที่เว็บตัวเองใช่ไหมครับ?
แต่ Facebook สร้างโฆษณาแบบ Canvas ขึ้นมาเพื่อเป็นหน้าเว็บตัวนั้นไปเลย เพื่อให้คนเห็นโฆษณา คลิกเข้าไป ก็ยังอยู่ใน Facebook อยู่ดี ไม่ได้หนีไปไหนเลย
พอจะเห็นภาพใช่ไหมครับ?
Story จะทำให้แฟนเพจเห็นมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ!
ตั้งแต่ที่ Facebook ไปขอซื้อ Snapchat ไม่ได้ เขาก็เลยไปลอกอะไรหลายๆอย่างมาจาก Snapchat มาใส่เข้าไปใน Instagram และหนึ่งในนั้นที่คนชอบมากๆก็คือ Story ครับ

เหตุผลที่เขาให้เห็นแค่ 24 ชั่วโมงก็เพราะว่าเขาอยากจะให้คุณโพสบ่อยๆนั่นแหละครับ และอีกอย่างคนไม่ค่อยอยากจะดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้วอาทิตย์ก่อนครับ
เขาอยากจะเห็นเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นครับ เพราะว่าสมัยนี้อะไรก็ต้องเร็วไปหมดครับ อยากจะได้ตอนนี้ อยากจะรู้ตอนนี้ครับ อะไรก็ไวไปหมด
Facebook เขาเข้าใจถึงจุดนี้ครับ เพราะฉะนั้นเขาเลยอยากจะให้เพจทั้งหลายโพส Stories ขึ้นมาด้วยครับ เขาเลยตอบแทนด้วยการให้คนเห็นเยอะขึ้นครับ
ผมคิดว่าผมไม่ต้องบอกมากก็ได้ใช่ไหมครับ ว่าควรต้องทำยังไง? เพราะผมคิดว่าหลายๆคนมันอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว ฮ่าๆ
ผมจะยกตัวอย่างให้ดูง่ายๆแล้วกันนะครับผม

สมมุติคุณเป็นร้านอาหาร คุณก็แค่ถ่ายอาหารที่คุณทำแล้วก็โพสลงไปเป็น Stories ก็เท่านั้นเองครับ
ถ้ามีลูกค้ามาที่ร้าน ก็อาจจะขออนุญาติถ่ายรูปกับเขาแล้วเอาลง Stories สักหน่อย อะไรประมาณนี้ครับ ไม่ได้ยากเลยจริงไหมครับ?
Facebook เขาอยากจะให้ Stories เป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันอยู่แล้วครับ เขาไม่ได้อยากจะให้มันเป็นอะไรที่ใหญ่โตอะไรครับ
หรือไม้แต่จะเป็นแค่รูปๆ เดียวก็สามารถทำได้ครับ ไม่ต้องเป็นวิดีโอเลยครับ

สิ่งที่คุณต้องการที่จะได้คือการที่เข้าถึงแฟนเพจของคุณมากขึ้นครับ เพราะฉะนั้นคุณเลยต้องทำ Stories เอาไว้ก่อนครับ
ไม่ต้องห่วงครับว่ามันอาจจะไม่ได้ดีขนาดนั้น ถ้าแฟนเพจคุณไม่เห็นเพจคุณเลย ต่อให้เป็นโพสที่มีคุณภาพดีมากๆ ก็ไม่มีประโยชน์ครับ
อีเว้นท์ช่วยชีวิตคุณได้แน่นอน
อย่างที่ผมบอกว่าเฟสบุ๊คไม่อยากจะเป็นเป้านิ่งให้กับคู่แข่งเข้ามาแย่งส่วนแบ่งของตลาดแน่นอนครับ ตอนนี้เฟสบุ๊คเริ่มมีคู่แข่งเข้ามาเยอะแล้วครับ เหมือนอย่างที่ผมบอกไปแรกๆ ก็คือ Meetup ครับ

ตอนนี้ Facebook ก็เลยอยากจะให้คุณทำ Events ออกมาให้เยอะๆครับ เพื่อจุดประสงค์ที่ว่า
- เขาอยากจะทำให้ Facebook เป็นเหมือนโลกออนไลน์ของหลายๆคนไปเลย ที่เขาสามารถทำกิจกรรมอะไรต่างๆนาๆได้ครับ
- เขาจะสามารถได้ค่าโฆษณาที่คนสร้างอีเว้นท์ เขาอยากที่จะโฆษณาเกี่ยวกับอีเว้นท์ของเขาเองด้วยครับ
เพราะฉะนั้น Facebook เขามีแต่ได้กับได้อยู่แล้วครับ แต่คุณติดตามบล็อกผม ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่ยอมให้คุณเสียผลประโยชน์แน่นอนครับ
การที่เราสร้างอีเว้นท์ ขึ้นมา ไม่จำเป็นต้องสร้างแล้วจัดอีเว้นท์ขึ้นมาจริงๆนะครับ เพราะว่าผมเข้าใจว่าพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้จะจัดงานอะไรใช่ไหมครับ?
แต่ผมอยากจะให้คุณสร้างอีเว้นท์ขึ้นมากึ่งหลอก ให้ Facebook เห็นว่าเพจของคุณสร้างอีเว้นท์อยู่ตลอดครับ เพื่อเขาจะได้ให้คะแนนกับเพจของคุณดีๆครับ
แล้วคุณจะทำยังไงดี จะทำอีเว้นท์เกี่ยวกับอะไรดีล่ะครับ? เป็นคำถามที่ดีเลยครับ สิ่งที่คุณทำได้คือการทำ Facebook live ครับผม

หลายๆคนก็ทำ live กันมาอยู่แล้วใช่ไหมครับ โดยเฉพาะแม่ค้าทั้งหลายครับ เพราะว่าขายของ live แล้วได้ดีครับ
เพราะฉะนั้นทำไมคุณไม่สร้างอีเว้นท์ ขึ้นมาเพื่อจะให้แฟนเพจคุณรู้ว่าจะมี live เกิดขึ้นครับ? เห็นไหมครับ คุณได้ผลดีทั้ง 2 เลย
- แฟนเพจของคุณรู้ว่าคุณจะ live เมื่อไหร่
- เฟสบุ๊ครู้ว่าคุณจะ live และชอบที่คุณสร้างอีเว้นท์เยอะๆ
จากประสบการณ์ของผมแล้ว ทำแบบนี้ออกมาได้ผลทุกทีครับ แฟนเพจจะเห็นเพจของคุณเยอะขึ้นกว่าเดิมจากปกติแน่นอนครับ
แต่ยังไงก็อย่าทำ Event มาเยอะเกินไปจนดูน่าสงสัยกลายเป็น Spam ไปนะครับผม เดี๋ยวจะโดน Facebook ลดการเข้าถึงอีก
Facebook ชอบให้คุณเป็นเหมือนดารา
อย่างที่ผมบอกไปครับ ว่า Facebook ชอบให้คนทำ live เยอะๆ ครับ เพราะว่าอะไรครับ? เพราะเขาอยากจะให้คนอยู่ใน Facebook นานๆไงครับ ยิ่งนานเขายิ่งให้เห็นโฆษณาได้เยอะๆ ใช่ไหมครับ?
เพราะฉะนั้นถ้าคุณทำ live ขึ้นมา Facebook จะพยายามช่วยให้แฟนเพจคุณเห็น live ของคุณเยอะๆ ครับ คือเอาง่ายๆเลย เฟสบุ๊คแทบที่จะขอร้องให้คุณทำ live ให้อยู่แล้วครับ

ปกติถ้าเพื่อนคุณโพสอะไร คุณจะมีแจ้งเตือนแบบนี้ไหมครับ ถ้าคุณไม่จงใจเปิดแจ้งเตือนจริงๆ? คงไม่ใช่ไหมครับ
แต่นี้ถ้าคนโพส live เมื่อไหร่ Facebook จะส่งแจ้งเตือนแบบนี้มาทุกครั้งเลยครับ เพราะเขาอยากจะให้คุณได้ดู live จริงๆ ครับ
อย่างที่ผมบอกว่า Facebook อยากจะให้ Facebook เป็นบ้านหลังหนึ่งของคุณเลย เป็นสังคมใหญ่ๆไปเลย ถ้าเขาป้อนข้าวคุณได้ผ่านหน้าจอ เขาก็คงทำไปแล้วล่ะครับ (หรือเขากำลังคิดอยู่ว่ะ? 555+)

เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะเพิ่มการเข้าถึงแฟนเพจของคุณ คุณต้องลองทำ live ขึ้นมาเยอะๆกว่านี้หน่อยครับ
เทคนิคของผมก็คือ คุณไม่จำเป็นต้องทำ live ระยะเวลานานเลยครับ ไม่ต้องทำเกี่ยวกับอะไรที่น่าสนใจเลยก็ได้ครับ
คุณสามารถทำ live ที่ถ่ายคุณกำลังแพ็กของส่งให้ลูกค้ายังได้เลยครับ
โห วันนี้ลูกค้าสั่งเยอะ ต้องรีบปั่น เอาใจช่วยแอดมินหน่อยนะค๊าาา!
อะไรประมาณนี้ครับ ไม่จำเป็นต้องถ่ายหน้าตัวเองหรือทำอะไรให้มันใหญ่โตขนาดนั้นครับ ขอให้คุณเข้าถึงแฟนเพจของคุณก็ถือว่าดีแล้ว จริงไหมครับ?
เพราะฉะนั้นต้องลองทำดูนะครับ นั่งแพ็กของส่งเนี้ยแหละครับ แล้วก็ถ่ายตัวเองมา หรือไม่ตอนที่เอาของไปส่งให้ Kerry คุณก็ถ่ายบรรยากาศในออฟฟิศของ Kerry มาแชร์ครับ
เป้าหมายไม่ใช่ให้คนมานั่งดูนะครับ แต่เป้าหมายคือ “คุณอยากจะเข้าถึงแฟนเพจของคุณ” ครับ
ลงโพสที่ทำให้คนไลค์เยอะๆ (เน้นไลค์ไว้ก่อน)
ระบบของเฟสบุ๊คไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนอะไรเยอะแค่ไหน เขาก็ต้องตามใจคนเล่น Facebook อยู่ดีครับ เขาไม่ได้ตามใจธุรกิจหรอกครับ
เพราะว่าเขารู้ครับว่าตราบใจที่คนยังใช้เฟสบุ๊คในชีวิตประจำวัน ยังไงธุรกิจเหล่านี้ก็ต้องอยากมาทำโฆษณาในเว็บของเขาอยู่ดีครับ
เหตุผลที่ Facebook อยากที่จะให้ลดการเข้าถึงเพจลง และเอาโพสของเพื่อนๆ มาอยู่หน้าฟีตแทนก็เพราะว่าเขารู้ว่าคนกดไลค์รูปหรือโพสอะไรจากเพื่อนมากกว่าครับ
ถ้าคนกดไลค์โพสต์เยอะๆแปลว่าอะไรครับ? แปลว่าถ้าเขาเห็นโพสต์อะไรแบบนี้เยอะๆ (แบบที่เขาชอบกดไลค์) เขาจะมีโอกาสอยู่ใน Facebook นานขึ้นครับ
อย่างที่ผมบอกครับ เขาทำตามว่า “อะไรที่คนชอบ เขาก็จะทำ” ใช่ไหมครับ? เพราะฉะนั้นถ้าเพจของคุณโพสต์อะไรที่คนกดไลค์เยอะๆ ซ้ำๆ กันบ่อยๆ มันก็แปลว่ามีโพสต์ของคุณนั้นแฟนเพจของคุณชอบ จริงไหมครับ?

อย่างผมชอบกดไลค์โพสอะไรที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีครับ เพราะผมเป็นคนชอบติดตามเรื่องเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆครับ โพสพวกนี้ก็เลยขึ้นมาเรื่อยๆครับ จากเพจที่ผมชอบกดไลค์บ่อยๆ
นอกนั้นก็จะเป็นโพสที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ซะส่วนใหญ่ครับ (เพราะผมชอบเล่นอสังหาริมทรัพย์ด้วยครับ)
เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากจะให้แฟนเพจคุณเห็นโพสต์ของคุณบ่อยๆ คุณต้องทำโพสต์ที่เขาชอบกดไลค์เยอะๆ ครับ
มันอาจจะฟังดูพูดง่ายแต่ทำยากนะครับ แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้ยากขนาดนั้นครับ คนเรามันจะกดไลค์อะไรไม่กี่อย่างครับ
- อะไรที่น่ารักๆ ดูแล้วอมยิ้ม (วิดีโอเด็กน่ารักๆ)
- อะไรที่มันตลกๆ (วิดีโอตลกๆ)
- ข่าวสารอะไรทั้งหลาย (โดยเฉพาะข่าวล่าสุดที่กำลังดังๆ)
อะไรประมาณนี้ครับ ถ้าคุณสามารถเอาเพจคุณโพสต์เกี่ยวกับอะไรพวกนี้ได้ด้วย มันจะทำให้ตอนที่คุณโพสต์ขายของจะมีคนเห็นมากขึ้นครับ
คุณต้องลองเอาคำแนะนำของผมไปลองใช้ดูนะครับ อย่าไปสนที่ Facebook บอกว่าเขาจะลดค่าการเข้าถึงให้กับเพจที่โพสต์อะไรที่เน้นแต่จะเอาไลค์
อันนั้นเขาหมายถึงโพสต์ที่ขอไลค์ แชร์ คอมเมนต์ แบบหน้าด้านๆเลยครับ

ประมาณว่า “คอมเมนต์ ถ้าคุณคิดว่ารูปนี้สวย ถ้าคิดว่าไม่สวยให้กดไลค์” อะไรมาณนี้ครับ นี้คือการขอแบบหน้าด้านๆครับ Facebook ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่
แต่สิ่งที่คุณทำก็คือการโพสต์อะไรที่คุณรู้ว่าแฟนเพจของคุณชอบครับและคุณรู้ว่าเขาจะกดไลค์ ไม่ได้เป็นการขอแบบหน้าด้านๆครับผม เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงครับ ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ
แล้วคุณต้องทำยังไงต่อดี…
อย่างที่ผมบอกในหลายๆบทความของผมครับว่าคุณจะต้องไปลงมือทำจริงๆถึงจะรู้ครับว่ามันได้ผลกับเพจของคุณมากแค่ไหน
ส่วนตัวผมแล้ว ผมพูดจากประสบการณ์ที่ผมสะสมมาด้วยการทำเพจอะไรพวกนี้อยู่ทุกๆวันครับ สำหรับผม มันได้ผลชัวร์ 100% ครับ
โพสที่มีคนอ่านเยอะที่สุด:
- จาก 2 ถึง 4,227 ไลค์ (ละ ฿0.11) ทำยังไงมาดูกัน (โฆษณา Facebook)
- (เนื้อหาปี 2022) วิธีทำโฆษณา Facebook วันละ 99 บาท แต่ได้ผลจริง (เหมาะสำหรับคนเริ่มใหม่)
- วิธีทำโฆษณา Instagram & สร้างกลุ่มเป้าหมายขั้นสูง (เนื้อหา 2022 อัพเดท)
- วิธีทำ SEO ให้ขึ้นหน้า 1 ของ Google ขั้นเทพ (สำหรับมือใหม่)
- โฆษณา Facebook: 21 ไอเดียเจาะกลุ่มลูกค้าเด็ดๆ (ที่คุณอาจคิดไม่ถึง)
- Facebook Ads vs. Adwords อันไหนเหมาะกับธุรกิจคุณมากกว่ากัน?
แต่เฟสบุ๊คอาจจะมีอะไรแปลกๆ ที่ทำให้เพจคุณใช้เทคนิคของผมแล้วไม่ได้ผลครับ คุณสามารถถามผมเข้ามาได้เลยในคอมเมนต์หรือเข้าไปในเพจของ ZOZAV และถามได้เลยครับ
สำหรับวันนี้ขอให้โชคดีและรวยๆ นะครับ!
- วิธีทำ SEO ให้ keywords ติดอันดับสูงๆ บน Google - September 29, 2022
- วิธีใช้ Instagram Hashtags อย่างเซียน แบบละเอียด (ฉบับเต็ม) - September 22, 2022
- Multi-Channel Online Marketing: คืออะไร ใช้เอาชนะคู่แข่งได้ไหม? - September 15, 2022
Leave a Comment